แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย1ปี6เดือนจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่ริบรถจักรยานสองล้อของกลางที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดแล้วโจทก์ยังฎีกาขอให้ริบอีกจึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว.
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 336ทวิ กับ ให้ ริบ รถ จักรยานยนต์ สองล้อ ของกลาง
จำเลย ให้การ รับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335, 336 ทวิ ให้ จำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่ ควร ริบ รถ จักรยานสองล้อง ของกลาง ให้ คืน เจ้าของ
โจทก์ อุทธรณ์ ขอ ให้ ริบ รถ จักรยาน ที่ จำเลย ใช้ ใน การ กระทำ ผิด
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน ตาม ศาลชั้นต้นที่ ให้ ลงโทษ จำคุก จำเลย 1 ปี 6 เดือน จึง เป็น คดี ที่ ต้องห้ามมิให้ คู่ความ ฎีกา ใน ปัญหา ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับ รถ จักรยาน สองล้อของกลาง ที่ จำเลย ใช้ ใน การ กระทำ ผิด ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ใช้ ดุลพินิจ ไม่ ริบ รถ จักรยาน สองล้อ ของกลาง การ ที่ โจทก์ ขอ ให้ริบ จึง เป็น เรื่อง โต้เถียง ดุลพินิจ ของ ศาล เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง อัน ต้องห้าม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา218 ศาลฎีกา จึง ไม่ รับ วินิจฉัย
พิพากษา ยก ฎีกา โจทก์.