คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำฟ้องที่อ่านโดยตลอดแล้วเข้าใจได้ว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่าจำเลยมีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน แต่ตามจริงแล้วจำเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศดังกล่าวแต่อย่างใดเป็นการบรรยายฟ้องถึงรายละเอียดที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามป.วิ.อ.มาตรา158(5)แล้ว.

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 91
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตใช้อุบายหลอกลวงนายทองเลื่อน งามเนตร และนายถุงเงิน สมสิงห์ผู้เสียหาย ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงว่าจำเลยจะส่งผู้เสียหายทั้งสองไปทำงานที่ประเทศบาห์เรนในตำแหน่งช่างไม้ จะได้รับเงินเดือนเดือนละ 8,200 บาท โดยผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินให้จำเลยเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จำนวน 30,000 บาท ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ความจริงแล้ว จำเลยไม่มีความตั้งใจที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศบาห์เรนในตำแหน่งช่างไม้แต่ประการใด จำเลยฎีกาว่า การบรรยายฟ้องดังกล่าวเป็นการกล่าวถึงความในใจของจำเลย ไม่ใช่เป็นการกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องของโจทก์เมื่ออ่านโดยตลอดแล้วเป็นที่เข้าใจได้ว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่าจำเลยมีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศบาห์เรนแต่ความจริงแล้วจำเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเป็นการบรรยายฟ้องถึงรายละเอียดที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share