แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ประกอบกิจการสร้างถนน ผู้ตายเป็นลูกจ้างของโจทก์มีหน้าที่เก็บรากไม้เก็บหิน ดูหลักระดับผิวถนนวันเกิดเหตุเวลา 6 นาฬิกา ผู้ตายกับลูกจ้างอื่นของโจทก์ได้มารอที่สำนักงานของโจทก์เพื่อจะไปทำงานตามหน้าที่ เวลา 6.45 นาฬิกาหัวหน้าคนงานของโจทก์สั่งให้ผู้ตายและลูกจ้างอื่นเดินไปทำงานที่จุดกำหนด ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานประมาณ 300 เมตรโดยมีลูกจ้างของโจทก์คนหนึ่งควบคุมไป ระหว่างทางมีรถบดของโจทก์วิ่งมา ผู้ตายขอโดยสารไปด้วย พอรถบดออกวิ่ง ผู้ตายก็ตกจากรถบด ถูกรถบดทับถึงแก่ความตายแม้การตายของผู้ตายมิได้เกิดขึ้นในระหว่างทำงานผู้ตายก็ประสบอันตรายถึงแก่ความตายระหว่างเดินทางไปทำงานนับได้ว่าการเดินทางไปทำงานให้โจทก์เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานให้โจทก์ ถือว่าผู้ตายประสบอันตรายถึงตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างและมิใช่อันตรายที่ลูกจ้างจงใจก่อให้เกิดขึ้นเอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบกิจการสร้างถนน นางสาวเฮียง คล้ายทองลูกจ้างของโจทก์ ขณะเดินเพื่อจะไปปฏิบัติหน้าที่การงาน ก่อนกำหนดเวลาเริ่มต้นทำงาน ได้กระโดดเกาะจับคานเหล็กระหว่างรถแทร็กเตอร์กับรถบดที่กำลังแล่น ด้วยความจงใจและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ถูกรถบดทับถึงแก่ความตาย ซึ่งมิใช่เนื่องจากทำการงานให้แก่นายจ้าง แต่เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ กลับวินิจฉัยให้โจทก์จ่ายเงินค่าทดแทนแก่นายลาด นางอ่อน บิดามารดาของนางสาวเฮียงโจทก์อุทธรณ์ จำเลยที่ ๒ วินิจฉัยยืน ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้โจทก์จ่ายเงินค่าทดแทน
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๒ คำวินิจฉัยที่ให้โจทก์จ่ายเงินค่าทดแทนชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การตายของผู้ตายมิได้เนื่องจากการทำงานให้โจทก์ โจทก์ไม่ต้องรับผิดจ่ายเงินค่าทดแทน พิพากษากลับให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์
จำเลยฎีกา
มีปัญหาว่า การที่นางสาวเฮียงซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ประสบอันตรายถึงตายนี้ เนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙ ข้อ ๓ หรือไม่
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเกิดเหตุ เวลา ๖.๐๐ นาฬิกา นางสาวเฮียงผู้ตายกับลูกจ้างอื่นของบริษัทโจทก์มานั่งรออยู่ที่สำนักงานของบริษัทโจทก์เพื่อจะไปทำงานให้บริษัทโจทก์ ครั้นเวลา ๖.๔๕ นาฬิกา นายประเมินลูกจ้างบริษัทโจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานสั่งให้ผู้ตายและลูกจ้างอื่นเดินไปทำงานที่จุดกำหนด ห่างจากสำนักงานประมาณ ๓๐๐ เมตร โดยมีนายประเสริฐลูกจ้างบริษัทโจทก์ควบคุมไปครั้นไประหว่างทาง มีรถบดของบริษัทโจทก์วิ่งมาผู้ตายขอโดยสารไปด้วย พอรถบดออกวิ่ง ผู้ตายก็ตกจากรถบดถูกรถบดทับถึงแก่ความตาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้การตายของผู้ตายมิได้เกิดขึ้นในระหว่างทำงานดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก็ตาม แต่การที่ผู้ตายและลูกจ้างบริษัทโจทก์เดินทางไปทำงานโดยมีนายประเสริฐลูกจ้างบริษัทโจทก์เป็นคนควบคุมไป แล้วผู้ตายประสบอันตรายถึงแก่ความตายในระหว่างเดินทางไปทำงาน เช่นนี้ นับได้ว่าการเดินทางไปทำงานให้บริษัทโจทก์เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานให้บริษัทโจทก์แล้ว ถือได้ว่าผู้ตายประสบอันตรายถึงตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง และมิใช่อันตรายที่ลูกจ้างจงใจก่อให้เกิดขึ้นเองที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การตายจะต้องเนื่องมาจากการงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำโดยตรงนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น