คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต้องได้ความว่า ความข้อไหนเป็นเท็จอย่างไร ทำไมอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้ จึงจะเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดยบรรยายฟ้องว่า “เนื่องจากการสอบสวนคดีอาญาเรื่องนายแสน นายเลิศ พลพิไชยต้องหาว่าทำร้ายร่างกายผู้มีชื่อ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2490 เวลากลางวัน จำเลยนี้บังอาจเอาความซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จ และอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้นั้นมาแจ้งแก่นายสวิง สิริเลิศ พนักงานสอบสวนอำเภอเมืองน่าน ผู้สอบสวนในคดีเรื่องนั้นเป็นใจความว่า ในวันเวลาที่นายแสนและนายเลิศพลพิไชย เมาสุรานอนอยู่ที่บ้านของจำเลย จนค่ำมืดแล้วคนทั้งสองจึงกลับบ้านของตน” ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เห็นว่าฟ้องไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในฟ้องไม่ได้กล่าวว่า ความข้อไหนเป็นเท็จอย่างไร ทำไมอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายเหล่านี้จะเข้าใจไม่ได้ดีเลยจากข้อความที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้น ศาลทั้งสองให้ยกเสียจึงถูกต้อง

พิพากษายืน

Share