แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะเห็นว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา ม.67 แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา 68 ดังนี้ เป็นการยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน และตรงกันพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ เป็นการต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การว่า ผู้ตายไล่ทำร้ายจำเลย ๆ จึงทำร้ายไปบ้าง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยกระทำโดยจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นจากความผิดตามมาตรา ๖๗ พิพากษายกฟ้องโจทก์ ของกลาง ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตามมาตร ๖๘ พิพากษาแก้ให้ใช้ มาตรา ๖๘ ปรับคดีแก่จำเลยและไม่ริบมีดของกลาง
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลทั้งสองพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันและว่าการกระทำของจำเลยนั้น กฎหมายยกเว้นโทษต่างกันเล็กน้อย โดยปรับบทมาตราว่า ๖๗ หรือ ๖๘ ก็ตาม ก็โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน และต้องกันและพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ คดีของโจทก์จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.๒๑๙
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์