คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้ง ท. ทายาทตามพินัยกรรมเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านยอมรับว่าพินัยกรรมพิพาทเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์เพียงแต่ข้อความที่ถูกขีดฆ่าและต่อเติมไม่สมบูรณ์ ศาลชั้นต้นจึงได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าพินัยกรรมพิพาทส่วนที่มีการขีดฆ่าและเพิ่มข้อความสมบูรณ์ถูกต้องหรือไม่ เมื่อสืบพยานเสร็จ ผู้คัดค้านยื่นคำแถลงว่า ลายมือชื่อในช่องผู้ทำพินัยกรรมเป็นลายมือชื่อปลอม พินัยกรรมพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอมทั้งฉบับ คำแถลงของผู้คัดค้านจึงเป็นการกล่าวอ้างนอกประเด็นไม่มีปัญหาที่ศาลชั้นต้นจะต้องวินิจฉัย และการที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าวจึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาที่มิได้ว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้น ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลฎีกาจะยกขึ้นวินิจฉัยนั้น ต้องเกิดจากข้อเท็จจริงในกระบวนพิจารณาโดยชอบ มิใช่ข้อเท็จจริงนอกประเด็นนอกสำนวนที่ยกมากล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นอุทธรณ์และฎีกา.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของพลตำรวจตรีจิตติ คีระสมบูรณ์ ซึ่งถึงแก่กรรม ก่อนถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้บุตร 4 คน และบุคคลอื่น โดยให้ผู้ร้องเป็นผู้ปกครองดูแลทรัพย์สินและมีสิทธิเก็บกิน ขอให้ศาลตั้งร้อยเอกทรงศักดิ์ คีระสมบูรณ์ ทายาทตามพินัยกรรมและเป็นบุตรของผู้ตายที่เกิดกับผู้ร้อง เป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายกับนางประไพ วัฒนะศรีมงคล โดยผู้ตายได้จดทะเบียนรับรองความเป็นบุตรแล้ว พินัยกรรมตามคำร้องเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแต่ได้มีบุคคลอื่นขีดฆ่าต่อเติมข้อความในพินัยกรรมเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายไปแล้ว ข้อความที่ถูกซีดและต่อเติมจึงไม่สมบูรณ์ ผู้ร้องและร้อยเอกทรงศักดิ์ควรรู้ดีถึงการขีดฆ่า จึงไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งร้อยเอกทรงศักดิ์เป็นผู้จัดการมรดกของพลตำรวจตรีจิตติ ให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องคัดค้าน ผู้คัดค้านยอมรับว่าพินัยกรรมพิพาทเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย เพียงแต่ข้อความที่ถูกขีดฆ่า และข้อความที่ต่อเติมไม่สมบูรณ์เท่านั้น ศาลชั้นต้นจึงได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า พินัยกรรมพิพาทส่วนที่มีการขีดฆ่าและลงชื่อกำกับรวมทั้งที่มีการเพิ่มข้อความในตอนท้ายนั้นสมบูรณ์ถูกต้องหรือไม่ เมื่อสืบพยานผู้ร้องและสืบพยานผู้คัดค้านเสร็จแล้วผู้คัดค้านได้ยื่นคำแถลงว่าลายมือชื่อในช่องผู้ทำพินัยกรรมเป็นลายมือชื่อปลอม พินัยกรรมพิพาทจึงเป็นพินัยกรรมปลอมทั้งฉบับซึ่งผู้ร้องได้แถลงคัดค้านว่าเป็นการอ้างประเด็นขึ้นใหม่ ศาลไม่ควรรับพิจารณาให้ ผู้คัดค้านเองก็ไม่ติดใจที่จะสืบพยานต่อไปจึงเห็นได้ว่าคำแถลงของผู้คัดค้านที่อ้างว่าพินัยกรรมพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอมทั้งฉบับนั้น เป็นการกล่าวอ้างนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้และกล่าวอ้างเมื่อผู้ร้องสืบพยานเสร็จแล้วด้วย จึงไม่มีปัญหาที่ศาลชั้นต้นจะต้องวินิจฉัยให้ เมื่อผู้คัดค้านอุทธรณ์แต่เพียงว่าพินัยกรรมพิพาทเป็นพินัยกรรมปลอมทั้งฉบับเท่านั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของผู้คัดค้านเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงที่มิได้ว่ากันในศาลชั้นต้น จึงชอบแล้ว ส่วนที่ผู้คัดค้านฎีกาว่าการที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม จึงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า พินัยกรรมที่ผู้ร้องอ้างมานั้นปลอมหรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องโดยตรง ถ้าพินัยกรรมนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมผู้ร้องย่อมไม่อาจที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ จึงเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น เห็นว่า ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลฎีกาจะยกขึ้นวินิจฉัยนั้นต้องเกิดจากข้อเท็จจริงในกระบวนพิจารณาโดยชอบ มิใช่ข้อเท็จจริงนอกประเด็นนอกสำนวนที่ผู้คัดค้านยกมากล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
พิพากษายืน.

Share