แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ลูกจ้างของเจ้าของไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต เคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปตามคำสั่งของเจ้าของก็แสดงว่าเจ้าของยังยึดถือเป็นเจ้าของไม้นั้นอยู่ เจ้าของไม้จะไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทำให้การครอบครองตามความหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ในฐานะเป็นเจ้าของสิ้นสุดไป และ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ก็มิได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เจ้าของไม้จำต้องดูแลรักษาด้วยตนเองแต่อย่างไร เจ้าของไม้ต้องมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ย่อยาว
ได้ความว่า ไม้สักแปรรูปยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นของจำเลย วันเกิดเหตุลูกจ้างของจำเลยชนไม้ของกลางจากโรงงานมาส่งสถานีรถไฟ เพื่อบรรทุกรถไฟถูกเจ้าพนักงานจับกุม โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย ๕๐๐ บาท ตามฟ้อง และริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า วันเกิดเหตุจำเลยอยู่ที่กรุงเทพฯ จะถือว่าของกลางอยู่ในความครอบครองของจำเลยไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ลูกจ้างของจำเลยเคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปตามคำสั่งของจำเลย ก็แสดงว่าจำเลยยังยึดถือเป็นเจ้าของไม้นั้นอยู่ จำเลยจะไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทำให้การครอบครองตามความหมาย พ.ร.บ. ป่าไม้ ในฐานะเป็นเจ้าของสิ้นสุดไป และตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ก็มิได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษ ให้เจ้าของไม่จำต้องดูแลรักษาด้วยตนเองแต่อย่างไร
พิพากษายืน