แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขอยืมข้าวเขาครั้งหนึ่งแล้วถึงกำหนดไม่มีข้าวใช้จึงได้ขอยืมข้าวเขามาอีก แล้วตกลงกันกับเจ้าหนี้ว่า ให้ผู้ยืมใช้เป็นเงินจำนวนหนึ่งแล้วได้ทำสัญญากู้ยืมขึ้นไว้ 1 ฉบับ ระบุจำนวนเงินที่ตกลงกันนั้นไว้ ดังนี้ เจ้าหนี้ย่อมฟ้องร้องให้บังคับตามสัญญากู้นั้นได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเงินโจทก์ไป 3,700 บาทแล้วไม่ชำระและไม่ใช้ดอกเบี้ย จึงฟ้องเรียกต้นเงินและดอกเบี้ย
จำเลยปฏิเสธว่า เป็นเรื่องยืมข้าวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ 1,500 บาท นอกนั้นให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเบิกความอ้างเหตุที่จำเลยทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ เนื่องจากจำเลยยืมข้าวของโจทก์ไป จำเลยยืมครั้งแรกแล้วถึงเวลาใช้ ไม่มีข้าวใช้ ต่อมาจำเลยยืมอีก ข้าวที่ค้างครั้งก่อนและข้าวที่ยืมครั้งหลัง รวมทั้งข้าวดอกเบี้ย โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยใช้เป็นเงินตามจำนวนที่แจ้งไว้ในสัญญาฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องนี้ ฉะนั้น การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ ก็เป็นการฟ้องตามสัญญาที่เกิดขึ้นจากความตกลงของโจทก์จำเลยนั่นเอง เหตุที่จะอ้างว่าสัญญาไม่สมบูรณ์หามีไม่ จำเลยจึงต้องใช้เงินแก่โจทก์ตามหนังสือสัญญากู้ที่กล่าว
พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 3,700 บาท กับดอกเบี้ย