คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3514/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเมืองซานโจ่อันประเทศปัวโตริโก้ โดยจำเลยที่ 1 จัดหารถบรรทุกไปขนสินค้าจากโรงงานของผู้ว่าจ้างไปยังสนามบินกรุงเทพ แล้วว่าจ้างจำเลยที่ 2 ขนส่งสินค้านั้นทางอากาศต่อไปอีกทอดหนึ่งเพื่อส่งมอบแก่บริษัทกวนแอนด์นาเกล จำกัด เมืองนิวยอร์ก และบริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด รับสินค้าและดำเนินการให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ขนส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดังนี้ ถือเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด เมื่อสินค้าสูญหายไปในการขนส่งช่วงสุดท้าย จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
( ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2531 )

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ มีวัตถุประสงค์รับจ้างขนสินค้าทางอากาศ ส่วนจำเลยที่ ๒ มีวัตถุประสงค์รับจ้างขนส่งคนโดยสารและสินค้าทางอากาศ และร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๑ ขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปให้แก่บริษัทอินเดียเอมโปเรียม จำกัด ที่เมืองซานโจอัน ประเทศปัวโตริโก้ จำเลยที่ ๑ ได้มอบให้จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ขนส่งทางอากาศต่อไปอีกทอดหนึ่ง การขนส่งสินค้ารายนี้มีโจทก์เป็นผู้รับประกันภัย ปรากฏว่าสินค้าสูญหายไปทั้งหมด โจทก์ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทอินเดียเอมโปเรียม จำกัด ไปแล้วจึงรับช่วงสิทธิมาฟ้องคดีนี้ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ๓๗๑,๑๐๕ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเพียงตัวแทนส่งสินค้าของร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ ไม่ใช่ผู้รับขน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ว่าจ้างจำเลยที่ ๒ ขนส่งสินค้าไปให้แก่บริษัทควนแอนด์ทาเกล จำกัด ผู้รับตราส่งที่เมืองนิวยอร์ก ซึ่งจำเลยที่ ๒ ก็ขนส่งสินค้าถึงจุดหมายและผู้รับตราส่งได้รับสินค้าไปแล้วและการขนส่งครั้งนี้จำเลยที่ ๒ ก็ขนส่งสินค้าจากจำเลยที่ ๑ เท่านั้น จึงไม่ใช่เป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ครั้นสืบพยานโจทก์จำเลยทั้งสองเสร็จ จำเลยที่ ๑ ยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ครึ่งหนึ่งของจำนวนทุนทรัพย์ โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ ๑ ศาลช้นต้นอนุญาตแล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการรับประกันภัยมีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ขนส่งทอดที่สองสำหรับสินค้ารายพิพาทของร้านบอมเบย์บาร์ซาร์และสินค้าสูญหายมิได้อยู่ระหว่างการครอบครองของจำเลยที่ ๒ ประเด็นอื่น จึงไม่ต้องวินิจฉัย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟ้งได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า ร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๑ ขนส่งสินค้าเพื่อส่งมอบแก่บริษัทอินเดียเอมโปเรียม จำกัด เมืองซานโจอัน ประเทศปัวโตริโก้ปรากฏตามใบตราส่งเอกสารหมาย จ.๓ โดยร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ได้นำสินค้าดังกล่าวไปประกันภัยเพื่อประโยชน์ของบริษัทอินเดียเอมโปเรียม จำกัดไว้กับโจทก์ แล้วจำเลยที่ ๑ ได้จัดรถบรรทุกของคนไปรับขนสินค้าจากโรงงานร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ ย่านพระโขนงมายังสนามบินกรุงเทพดำเนินการทำพิธีทางศุลกากร แล้วว่าจ้างให้จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ขนส่งสินค้าจากสนามบินกรุงเทพถึงบริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด ดำเนินการให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ขนส่งสินค้าต่อไปยังเมืองซานโจอัน ประเทศปัวโตริโก้ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๑ บริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด ได้รับสินค้าและมอบให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัดเรียบร้อยแล้ว แต่สินค้าดังกล่าวได้เกิดสูญหายในการขนส่งช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายมีประเด็นที่จะวินิจฉัยว่า การขนส่งสินค้าของผู้ขนส่งดังกล่าวเป็นการขนส่งสินค้าหลายคนหลายทอด และจำเลยที่ ๒ จะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วยหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าการขนส่งสินค้าของร้านบอมเบย์บาร์ซาร์ จากโรงงานร้านบอมเบย์เบร์ซาร์ กรุงเทพมหานครไปจนถึงเมืองซานโจอันประเทศปัวโตริโก้ โดยจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ และบริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ตามที่ได้ความข้างต้น เป็นการขนส่งหลายคนหลายทอดแม้จะปรากฏว่าสินค้าได้สูญหายไปในระหว่างการขนส่งช่วงสุดท้าย ซึ่งกระทำโดยบริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด จำเลยที่ ๒ ก็จะต้องร่วมรับผิดในการสูญหายของสินค้านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑๘ และคดีนี้หลังจากสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนได้นัดฟังคำพิพากษาแล้ว โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้ขนส่งทอดแรก โดยจำเลยที่ ๑ ยอมชำระเงินค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๑๘๔,๔๕๒.๕๐ บาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ เมื่อปรากฏว่าจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์ได้ชำระให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปนั้น โจทก์ได้รับมาไม่ครบ ยังขาดอีก ๑๘๔,๕๕๒.๕๐ บาท จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ ที่ศาลต่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงินค่าเสียหายจำนวน ๑๘๔,๕๕๒.๕๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จ

Share