คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7003/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซึ่งเป็นพ่อค้าฟ้องเรียกเงินค่าจ้างหรือสินจ้าง อันจะพึงได้รับจากการงานที่ทำให้จำเลยตามสัญญาจ้างเหมา โจทก์ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) เดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างรางระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก กำหนดการก่อสร้างเป็นระยะเวลา 270 วันหากทำไม่เสร็จในกำหนดจะถูกปรับอัตราวันละ 3,179.20 บาท โจทก์ก่อสร้างงานงวดสุดท้ายเสร็จและจำเลยรับมอบงานเมื่อวันที่10 ตุลาคม 2529 โดยจำเลยตรวจรับมอบงานอย่างล่าช้า ซึ่งเหตุที่งานสำเร็จล่าช้าทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความผิดของโจทก์ แต่จำเลยกลับอ้างว่าโจทก์ส่งมอบงานล่าช้าไป 234 วัน จึงหักเงินค่าจ้างที่ชำระให้โจทก์เป็นค่าปรับจำนวน 743,932.80 บาท โดยไม่มีสิทธิขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 846,348 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 743,932.80 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ทำงานแล้วเสร็จในวันที่ 5 พฤศจิกายน2529 เลยกำหนดไป 234 วัน จำเลยจึงปรับโจทก์ตามข้อตกลงในสัญญาเงินค่าปรับงวดที่ 3 จำนวน 111,272 บาท จำเลยหักไว้จากค่าจ้างที่โจทก์ได้รับไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2529 นับถึงวันฟ้องเกินกว่า2 ปี แล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน82,659.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2530 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาจำเลยว่าเงินค่าจ้างงวดที่ 3 จำนวน 111,272 บาท ที่จำเลยหักไว้เป็นค่าปรับตามสัญญาโจทก์จะต้องฟ้องเรียกคืนภายในกำหนดอายุความ 2 ปี หรือ 10 ปีปัญหานี้โจทก์จำเลยนำสืบต้องกันฟังได้ว่า เงินจำนวน 111,272 บาทเป็นเงินค่าจ้างงวดที่ 3 ที่จำเลยต้องจ่ายให้โจทก์ แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้โจทก์โดยอ้างว่าจำเลยได้ใช้สิทธิหักเป็นเงินค่าปรับตามสัญญาจ้างเหมาเอกสารหมาย จ.2 หรือ ล.3 ข้อ 19เนื่องจากโจทก์ทำงานล่าช้าไม่ส่งมอบงานให้จำเลยภายในกำหนดเวลาตามสัญญา โจทก์โต้แย้งว่าโจทก์ไม่ผิดสัญญา จำเลยไม่มีสิทธิหัก และฟ้องเรียกเงินค่าจ้างดังกล่าว เห็นว่า เงินที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยคือเงินค่าจ้างตามสัญญา มิใช่เงินค่าปรับตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย คำฟ้องของโจทก์เป็นคำฟ้องเรียกเงินค่าจ้างหรือสินจ้าง อันจะพึงได้รับจากการงานที่ทำให้จำเลยตามสัญญาจ้างเหมาเมื่อจำเลยไม่ยอมชำระโจทก์ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) เดิมตามสัญญาจ้างเหมาเอกสารหมาย จ.2 หรือ ล.3 มีข้อตกลงให้จำเลยจ่ายค่าจ้างเป็นงวด ๆ ตามที่โจทก์ได้ก่อสร้างงานแล้วเสร็จและส่งมอบให้จำเลย โดยคณะกรรมการตรวจการจ้างของจำเลยจะได้ตรวจรับเป็นคราว ๆ โจทก์ส่งมอบงานงวดที่ 3 เมื่อวันที่ 20 เมษายน2529 คณะกรรมการตรวจรับงานของจำเลย รับงานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม2529 นับถึงวันฟ้องวันที่ 18 สิงหาคม 2531 เกินกำหนดอายุความ 2 ปีคำฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า คำฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ และให้จำเลยคืนเงินค่าปรับ82,659.20 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินค่าจ้างงานงวดที่ 3 ดังกล่าวข้างต้นแก่โจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share