คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายไม่พอใจที่จำเลยมารักใคร่ในทางชู้สาวกับบุตรสาว จึงกีดกันจำเลยมิให้ติดต่อ หากฝ่าฝืนจะให้ตำรวจจับกุม ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน จำเลยได้ยิงปืนใกล้บ้านผู้ตาย ผู้ตายได้พูดจาว่ากล่าว จำเลยโกรธได้ชักปืนออกแต่มิได้ยิง และคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีว่า สาเหตุดังกล่าวทำให้จำเลยนึกเจ็บใจที่ถูกว่ากล่าว ทั้งกลัวผู้ตายจะทำร้ายเพราะโกรธเรื่องที่รักใคร่บุตรสาวผู้ตาย จึงตั้งใจจะไปยิงผู้ตาย แล้วจำเลยลอบเข้าไปในบ้านผู้ตายในเวลากลางคืนแล้วยิงผู้ตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๐๙ เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยได้บังอาจใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายนายข้นหรือปาน สมแสง ถึงแก่ความตาย กรณีจำเลยกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะโกรธเคืองผู้ตายที่ขับไล่จำเลยมิให้เข้าไปในเขตบ้าน และห้ามมิให้เกี่ยวข้องทางชู้สาวกับบุตรสาวผู้ตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙
ชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมากลับให้การรับสารภาพในข้อที่ได้ฆ่าผู้ตาย แต่ปฏิเสธในข้อที่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙ ลดมาตราส่วนโทษตามมาตรา ๗๖ และลดรับสารภาพตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยฆ่าผู้ตายโดยไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษที่แสดงว่าได้ไตร่ตรองไว้ก่อน พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ คงลงโทษจำคุก ๕ ปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ตายไม่พอใจที่จำเลยมารักใคร่บุตรสาวทางชู้สาว จึงกีดกันห้ามปรามมิให้ติดต่อ และได้ความจากพยานโจทก์ประกอบกันว่าผู้ตายได้ห้ามจำเลยมิให้เข้าบ้าน หากฝ่าฝืนจะให้ตำรวจจับกุม ทั้งก่อนเกิดเหตุ ๑ เดือนจำเลยได้ยิงปืนใกล้บ้านผู้ตาย ผู้ตายได้พูดว่ากล่าว (ย้ำ) มิให้จำเลยมาเหยียบบ้าน จำเลยมีความโกรธเคือง ได้ชักปืนออกแต่มิได้ยิง ผู้ตายได้นำกรณีนี้ไปแจ้งต่อตำรวจ และคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีว่า สาเหตุที่กล่าว ทำให้จำเลยนึกเจ็บใจที่ถูกกีดกัน เจ็บใจที่ถูกว่ากล่าวทั้งกลัวผู้ตายจะทำร้ายจำเลยเพราะโกรธเรื่องที่รักใคร่บุตรสาวผู้ตาย จึงตั้งใจจะไปยิงผู้ตาย แล้วจำเลยก็ยิงผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตาย จึงเห็นว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษา พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share