แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ผู้ร้องร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์โดยอ้างว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะขายได้โดยไม่พิจารณาว่าราคาที่ผู้เข้าสู้ราคาเสนอซื้อเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่ทำให้ผู้ร้องตลอดจนเจ้าหนี้ทั้งหลายเสียหายได้รับชำระหนี้ตามส่วนเฉลี่ยลดน้อยลงและผู้คัดค้านไม่ได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบซึ่งวันขายทอดตลาดเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าผู้ร้องได้รับความเสียหายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา146 ผู้ร้องมิใช่เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีนี้หากแต่เป็นเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายอื่นของศาลชั้นต้นและแม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของผู้ล้มละลายในคดีอื่นดังกล่าวได้นำหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีอื่นดังกล่าวทั้งหมดนั้นมาขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ไว้ซึ่งศาลมีคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้แล้วก็ตามก็ถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดของผู้คัดค้านในอันที่จะได้รับความเสียหายโดยการกระทำของผู้คัดค้านผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ของผู้คัดค้านในคดีนี้ได้และปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา
ย่อยาว
คดี สืบเนื่อง มาจาก เมื่อ วันที่ 20 มิถุนายน 2533 ผู้คัดค้านที่ 1 ใน ฐานะ เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ ของ จำเลย ที่ 2 ได้ ดำเนินการ ขายทอดตลาด ที่ดิน พร้อม สิ่งปลูกสร้าง ของ จำเลย ที่ 2 ตาม ประกาศเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2533รวม 2 รายการ รายการ แรก ทรัพย์ หมาย ก. ประมูล ได้ ใน ราคา25,400,000 บาท รายการ หลัง ทรัพย์ หมาย ข. ประมูล ได้ ใน ราคา13,240,000 บาท
ผู้ร้อง ทั้ง หก ยื่น คำร้องขอ ให้ เพิกถอน การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ดังกล่าว เป็น 3 สำนวน และ ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ รวม พิจารณา เข้าด้วยกัน โดย กำหนด ให้ เรียก ผู้ร้อง เป็น ผู้ร้อง ที่ 1 ถึง ที่ 6 ตามลำดับและ ให้ เรียก ผู้คัดค้าน เป็น ผู้คัดค้าน ที่ 1 และ ที่ 2 ตามลำดับสรุป คำร้องขอ งผู้ร้อง ทั้ง หก เป็น ใจความ ว่า ผู้ร้อง ทั้ง หก เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ตาม กฎหมาย การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ คดี นี้ ผู้คัดค้านที่ 1 กระทำ โดย ฝ่าฝืน ระเบียบ ของ กรมบังคับคดี และ กฎหมาย และ กระทำไป ใน ลักษณะ รวดเร็ว และ รวบรัด ไม่พิจารณา ว่า ราคา ที่ ผู้ เข้า สู้ราคา เสนอซื้อ เหมาะสม หรือไม่ ทำให้ ขาย ไป ใน ราคา ต่ำ โดย ขาย ทรัพย์ หมาย ก.ไป ต่ำกว่า ราคา แท้จริง 30,000,000 บาท เศษ และ ขาย ทรัพย์ หมาย ข.ไป ต่ำกว่า ราคา แท้จริง 26,000,000 บาท เศษ นอกจาก นี้ ก่อน ขายทอดตลาด ทรัพย์ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ไม่ได้ แจ้ง การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ให้ ผู้ร้อง ทั้ง หก ทราบ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 306
ผู้คัดค้าน ที่ 1 และ ที่ 2 ยื่น คำคัดค้าน ว่า ผู้คัดค้าน ที่ 1ได้ ดำเนินการ ขายทอดตลาด โดยชอบ แล้ว ราคา ที่ ขาย ได้ เป็น ราคา ที่เหมาะสม และ ก่อน ขายทอดตลาด ได้ ส่ง สำเนา ประกาศ ให้ แก่ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ของ บริษัท ไสวผลิตภัณฑ์การเกษตร จำกัด ผู้ล้มละลาย ใน คดีล้มละลาย หมายเลขแดง ที่ ล. 273/2528 ของ ศาลชั้นต้น ซึ่งผู้ร้อง ทั้ง หก ขอรับ ชำระหนี้ ไว้ ทราบ แล้ว ผู้ร้อง ทั้ง หก ไม่ใช่เจ้าหนี้ ซึ่ง ขอรับ ชำระหนี้ ใน คดี นี้ ไม่มี ส่วนได้เสีย ใน คดี จึงไม่มี สิทธิ ยื่น คำร้อง คดี นี้ ขอให้ ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ยกคำร้อง ของ ผู้ร้อง ทั้ง หก
ผู้ร้อง ทั้ง หก อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้ร้อง ทั้ง หก ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ ใน ชั้นอุทธรณ์ ผู้ร้อง ที่ 4 ที่ 5และ ที่ 6 มิได้ ขอ ขยาย ระยะเวลา ยื่น อุทธรณ์ ซึ่ง จะ ครบ กำหนด อุทธรณ์ใน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2535 และ ผู้ร้อง ที่ 4 ที่ 5 และ ที่ 6ได้ แต่งทนาย ความ คนใหม่ ยื่น อุทธรณ์ รวม ใน ฉบับ เดียว กับ อุทธรณ์ ของผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ซึ่ง ได้รับ อนุญาต จาก ศาลชั้นต้น ให้ขยาย ระยะเวลา อุทธรณ์ สำหรับ ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ไป 15 วันนับแต่ วัน ครบ กำหนด อุทธรณ์ ดังนั้น อุทธรณ์ ส่วน ของ ผู้ร้อง ที่ 4ที่ 5 และ ที่ 6 ที่ ยื่น เมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2535 จึง เป็น อุทธรณ์ที่ ยื่น พ้น กำหนด ระยะเวลา อุทธรณ์ ที่ ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย อุทธรณ์ใน ส่วน ของ ผู้ร้อง ที่ 4 ที่ 5 และ ที่ 6 ด้วย เป็น การ ไม่ชอบ คดีสำหรับ ผู้ร้อง ที่ 4 ที่ 5 และ ที่ 6 เป็น อัน ยุติ ไป ตาม คำสั่งศาลชั้นต้น คดี จึง มี ปัญหา ขึ้น มา สู่ ศาลฎีกา เฉพาะคดี สำหรับ ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ข้อเท็จจริง เบื้องต้น ที่ ไม่นำ สืบ โต้เถียงกัน ใน ชั้น นี้ ฟังได้ ว่า ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 เป็น เจ้าหนี้ยื่น ขอรับ ชำระหนี้ ใน คดีล้มละลาย หมายเลขแดง ที่ ล. 273/2528 ของศาลชั้นต้น ระหว่าง นางสาว ทิพย์วรรณ พรหมเทศ โจทก์ บริษัท ไสวผลิตภัณฑ์การเกษตร จำกัด จำเลย และ เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ ของ บริษัท ไสวผลิตภัณฑ์การเกษตร จำกัด ผู้ล้มละลาย ได้ ยื่น ขอ รับชำระหนี้ ใน คดี นี้ ซึ่ง ศาล มี คำสั่ง อนุญาต ให้ ได้รับ ชำระหนี้ตาม ขอ คดีถึงที่สุด แล้ว ศาลฎีกา เห็นสมควร ยกขึ้น วินิจฉัย ใน ปัญหาที่ ว่า ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 มีสิทธิ ร้องขอ ให้ เพิกถอนการ ขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาท ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ใน คดี นี้ หรือไม่เห็นว่า การ ที่ ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ร้องขอ ให้ เพิกถอนการ ขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาท โดย อ้างว่า ผู้คัดค้าน ที่ 1 ได้ ขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาท ไป ใน ราคา ที่ ต่ำกว่า ที่ ควร จะขาย ได้ โดย ไม่พิจารณา ว่า ราคา ที่ ผู้ เข้า สู้ราคา เสนอ ซื้อ เป็น ราคา ที่ เหมาะสมหรือไม่ ทำให้ ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ตลอดจน เจ้าหนี้ ทั้งหลายเสียหาย ได้รับ ชำระหนี้ ตาม ส่วน เฉลี่ย ลด น้อยลง และ ผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ได้ แจ้ง ให้ ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ทราบ ซึ่งวัน ขายทอดตลาด เป็น การ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เท่ากับ เป็น การกล่าวอ้าง ว่า ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ได้รับ ความเสียหายโดย การกระทำ ของ เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ ตาม พระราชบัญญัติ ล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 146 ซึ่ง บัญญัติ ให้ อำนาจ แก่ บุคคล ล้มละลายเจ้าหนี้ หรือ บุคคล ใด ได้รับ ความเสียหาย ยื่น คำร้องขอ ให้ศาล สั่ง กลับ หรือ แก้ไข หรือ สั่ง ประการใด ตาม ที่ เห็นสมควร คดี นี้ปรากฎ ว่า ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 มิใช่ เจ้าหนี้ ยื่น ขอรับชำระหนี้ ใน คดี นี้ หาก แต่ เป็น เจ้าหนี้ ขอรับ ชำระหนี้ ใน คดีล้มละลายหมายเลขแดง ที่ ล. 273/2528 ของ ศาลชั้นต้น และ แม้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ของ ผู้ล้มละลาย ใน คดี ดังกล่าว ได้ ขอรับ ชำระหนี้ใน คดี นี้ ไว้ ซึ่ง ศาล มี คำสั่ง ถึงที่สุด ให้ ได้รับ ชำระหนี้ แล้ว ก็ ตามก็ ถือไม่ได้ว่า ผู้ร้อง ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มี ส่วนได้เสีย ใน การ ขายทอดตลาด ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ใน อัน ที่ จะ ได้รับ ความเสียหาย โดยการกระทำ ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ตาม บท กฎหมาย ดังกล่าว ผู้ร้อง ที่ 1ที่ 2 และ ที่ 3 ไม่มี สิทธิ ร้องขอ ให้ เพิกถอน การ ขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาท ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ใน คดี นี้ ได้ และ ปัญหา นี้ เป็น ข้อกฎหมายอัน เกี่ยว ด้วย ความสงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน ศาลฎีกา มีอำนาจ ยกขึ้นวินิจฉัย ได้ แม้ ไม่มี ฝ่ายใด ยกขึ้น อ้าง ใน ชั้นฎีกา
พิพากษายืน