แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยไม่ส่งตัว ห. คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักรเพราะห. ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยจำเลยไม่มีเจตนาปฏิบัติผิดเงื่อนไขสัญญาที่ต้องจัดการให้ ห.เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าปรับตามสัญญา ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมืองที่จะอนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องร้องดำเนินคดีในฐานะคู่สัญญากับจำเลยตามกฎหมาย เมื่อผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองมีคำสั่งเห็นชอบผ่อนผันระงับการปรับจำเลย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงและชอบด้วยกฎหมายทั้งในฐานะคู่สัญญากับจำเลยโดยตรงแล้วหนี้ค่าปรับจึงระงับสิ้นไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับรองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่า นายหวังกวงฝาซึ่งเป็นคนต่างด้าวจะเข้ามาในประเทศไทยเมื่อถึงกำหนดจำเลยจะให้ออกจากราชอาณาจักร จำเลยผิดสัญญา ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าปรับจำนวน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เหตุที่ไม่สามารถส่งตัวนายหวังกวงฝาออกไปนอกราชอาณาจักรตามกำหนดเนื่องจากนายหวังกวงฝาป่วยต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหล่มสักเป็นเหตุสุดวิสัย โจทก์เคยผ่อนผันให้จำเลยโดยไม่ปรับตามสัญญาแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามบันทึกรับรองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเอกสารหมาย จ.3 (ตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3)ข้อ 2(3)(4) ที่ระบุว่าถ้าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลง จำเลยจะจัดการให้คนต่างด้าวเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนดทันที หากผิดเงื่อนไขคำรับรองจำเลยยินยอมให้ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆนั้น ผู้ที่จะถูกปรับตามข้อสัญญาดังกล่าว ต้องมีเจตนาฝ่าฝืนเงื่อนไขสัญญาไม่จัดการให้คนต่างด้าวเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนด แต่กรณีของจำเลยข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่จำเลยไม่ส่งนายหวังกวงฝาออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นเพราะนายหวังกวงฝาป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่มีเจตนาปฏิบัติผิดเงื่อนไขในบันทึกการรับรองคนต่างด้าวเอกสารหมายจ.3 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าปรับตามสัญญา
โจทก์ฎีกาในข้อต่อไปว่า การที่ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองมีความเห็นผ่อนผันไม่ปรับจำเลย ตามข้อความในเอกสารหมาย ล.7หนี้ยังไม่ระงับเนื่องจากไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด คืออธิบดีกรมตำรวจในปัญหานี้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงมาว่า เหตุที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามบันทึกรับรองเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 เพราะนายหวังกวงฝาป่วยเป็นเหตุสุดวิสัยผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองเห็นชอบให้ระงับการปรับจำเลยแล้วเห็นว่า ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เอกสารหมาย จ.1มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองที่จะอนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องร้องดำเนินคดีนี้ในฐานะคู่สัญญากับจำเลยตามกฎหมาย ซึ่งโจทก์มีพลตำรวจตรีวานิชกุลมา ตำแหน่งผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองขณะนั้นเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของโจทก์ เมื่อพลตำรวจตรีวานิช กุลมา ได้มีคำสั่งเห็นชอบผ่อนผันระงับการปรับจำเลยแล้ว จึงเป็นคำสั่งที่เป็นอำนาจหน้าที่ของโจทก์โดยตรงและชอบด้วยกฎหมาย เพราะโจทก์กระทำไปตามอำนาจในฐานะเป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยตรง ส่วนอธิบดีกรมตำรวจมิใช่คู่สัญญากับจำเลย ดังนั้น เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาแสดงเจตนาปลดหนี้ให้จำเลยแล้วหนี้ค่าปรับจำนวน 20,000 บาท จึงระงับสิ้นไป
พิพากษายืน