แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภรรยากู้เงินเขามาซื้อเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้าง ซึ่งสามีทำการก่อสร้างอยู่ ถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภรรยา
เงินกู้ที่มิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ ให้คิดร้อยละ 7 1/2 ต่อปี นับแต่วันผิดนัด ถ้าไม่ปรากฎว่าทวงถามเมื่อใด ศาลก็ให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ ๑๕ พ.ค.๒๔๙๙ จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไป ๒๐,๐๐๐ บาท สัญญาว่าจะให้ดอกเบี้ยชั่งละ ๑ บาท ต่อเดือน ตามหนังสือกู้ที่จำเลยเขียนให้โจทก์ไว้เป็นหลักฐาน จำเลยไม่ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยจึงฟ้องบังคับ
จำเลยให้การว่าไม่เคยกู้เงินโจทก์
นายนิพนธ์ ยื่นคำร้องขอเป็นจำเลยร่วม ให้การทำนองเดียวกับจำเลยและว่าไม่รู้เห็น นิติกรรมย่อมไม่สมบูรณ์
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดร่วมกันใช้เงินต้นและดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ๑/๒ ต่อปีนับแต่วันกู้จนกว่าจะใช้เสร็จ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยยืมเงินโจทก์เพื่อไปซื้อเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้าง ซึ่งนายนิพนธ์สามีจำเลยทำงานก่อสร้างอยู่ จึงต้องรับผิดชอบร่วมกัน และการยืมเงินแม้มิได้กำหนดดอกเบี้ยกันไว้ จำเลยก็ต้องเสียดอกเบี้ยเมื่อผิดนัดตาม ป.พ.พ.๒๒๔ แต่ไม่ปรากฎว่าโจทก์ทวงถามเมื่อใด จึงพิพากษาแก้ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จ