แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องของผู้ร้องกล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินในราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดมาก ซึ่งหากเป็นจริงดังคำร้อง ก็เป็นข้อแสดงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ใช้ดุลพินิจในการขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันถือได้ว่าเป็นการร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งทำให้ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้ผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายได้รับความเสียหายกรณีต้องด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ชอบที่ศาลจะรับคำร้องของผู้ร้องไว้ทำการไต่สวนต่อไป
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขายทอดตลาดที่ดินของผู้ล้มละลายเพื่อแบ่งทรัพย์สินให้แก่เจ้าหนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้ล้มละลาย และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วการขายทอดตลาดที่ดินของผู้ล้มละลายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2535 ขายราคาต่ำกว่าความเป็นจริงในท้องตลาดเป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ ทำให้ผู้ร้องเสียหายได้รับชำระหนี้น้อยกว่าความเป็นจริงมาก ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินและสั่งให้มีการขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องแล้วมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏหลักฐานว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยฝ่าฝืนในการบังคับคดีอย่างใด กรณีไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องว่าคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นได้กล่าวอ้างต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 หรือไม่ซึ่งในปัญหาดังกล่าวผู้ร้องติดใจฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่ 2 และที่ 3 เท่านั้น ตามคำร้องของผู้ร้องระบุว่า การขายทอดตลาดที่ดินของผู้ล้มละลายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2535 ขายราคาต่ำกว่าความเป็นจริงโดยที่ดินแปลงที่ 2 ขายราคา 20,000,000 บาทต่ำกว่าราคาท้องตลาดซึ่งไม่น้อยกว่า 30,000,000 บาท และแปลงที่ 3ขายราคา 1,300,000 บาท ต่ำกว่าราคาท้องตลาดซึ่งไม่น้อยกว่า2,000,000 บาท เป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ ทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วเสียหายโดยได้รับชำระหนี้น้อยกว่าความเป็นจริงมาก เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่ 2 และที่ 3 ในราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดมากซึ่งหากเป็นจริงดังคำร้อง ก็เป็นข้อแสดงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ใช้ดุลพินิจในการขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันถือได้ว่าเป็นการร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งทำให้ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้ผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายได้รับความเสียหาย กรณีต้องด้วยพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 153 ดังนี้ จึงชอบที่จะรับคำร้องของผู้ร้องไว้ทำการไต่สวนต่อไป
พิพากษากลับ ให้รับคำร้องของผู้ร้องเฉพาะที่เกี่ยวกับที่ดินแปลงที่ 2 และที่ 3 ไว้ดำเนินการต่อไป