แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามทางนำสืบของโจทก์ว่า จำเลยค้างชำระราคากล้วย450,000 บาท จำเลยฎีกาว่าจำเลยคงค้างชำระอีก 317,776 บาท ดังนี้ ถือได้ว่าเงินจำนวน 317,776 บาท จำเลยยอมรับผิดชดใช้ให้โจทก์ ทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาจึงมีจำนวน 132,224 บาท
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้รับกล้วยไปจากโจทก์ครบถ้วนตามสัญญามูลหนี้ตามเช็คจึงสมบูรณ์ พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 536,204 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “สำหรับค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่จำเลยคัดค้านว่า จำเลยฎีกาในทุนทรัพย์เพียง 132,224 บาท ศาลช้นต้นสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ 450,000 บาท รวมกับดอกเบี้ยเป็นการไม่ถูกต้องนั้น โจทก์นำสืบว่าจำเลยซื้อกล้วยจำนวนแรกและจำนวนที่สองรวม 80,000 เครือ เป็นเงิน 1,280,000 บาท จำเลยชำระแล้ว830,000 บาท คงค้างชำระอีก 450,000 บาท จำเลยฎีกาว่าได้รับกล้วยไปจากโจทก์เพียง 71,736 เครือ เป็นเงิน 1,147,776 บาท เมื่อหักกับราคากล้วยที่ได้ชำระแล้ว จำเลยคงค้างชำระอีก 317,776 บาท ดังนี้ถือได้วาเงินจำนวน 317,776 บาทดังกล่าวจำเลยยอมรับผิดชดใช้ให้โจทก์ ฉะนั้นทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาจึงเป็นจำนวนเพียง 132,224 บาท รวมกับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันผิดนัดจนถึงวันฟ้อง
พิพากษายืน ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกินทุนทรัพย์ 132,224บาทรวมกับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่วันผิดนัดจนถึงวันฟ้อง แก่จำเลยทั้งสอง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 3,000 บาทแทนโจทก์”