คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6938/2552

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยซื้อสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์ โดยจำนวนสินค้าที่จำเลยซื้อจากโจทก์แต่ละครั้งมีจำนวนหลายรายการและมีปริมาณค่อนข้างมาก อีกทั้งสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งซึ่งโดยสภาพของสินค้านั้นนำไปใช้กับกิจการเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งเท่านั้น ประกอบกับกิจการการเลี้ยงกุ้งเป็นการเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายมิใช่เลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเอง การที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ค่าสินค้าดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรมใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าสินค้าจากจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกหนี้ที่สั่งซื้อมาเพื่อใช้ในกิจการของลูกหนี้นั้นเอง สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (5) ประกอบมาตรา 193/34 (1) ตอนท้าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบอาชีพค้าขายสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งโดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “ร้านกรแก้ว” เมื่อระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2541 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2542 จำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อและรับสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์เพื่อเลี้ยงกุ้งจำหน่ายรวมเป็นเงิน 232,545 บาท หลังจากนั้นจำเลยทั้งสองยังคงค้างชำระค่าสินค้าดังกล่าวอยู่ โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยทั้งสองเพิกเฉย โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 26 มกราคม 2542 ซึ่งเป็นวันสั่งซื้อและรับสินค้าไปจากโจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อคิดถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ย 80,753 บาท รวมเป็นเงิน 313,298 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้จำนวน 313,298 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 232,545 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า การที่จำเลยทั้งสองได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ดังกล่าว โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าของที่ได้ส่งมอบภายในกำหนดอายุความ 2 ปี นับแต่วันส่งสินค้าครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2542 ครบกำหนดอายุความวันที่ 26 มกราคม 2544 การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2546 ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนสืบพยานคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อและรับสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์จริงตามฟ้อง ให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยโจทก์และจำเลยทั้งสองไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 232,545 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยเมื่อคิดถึงวันฟ้อง (วันที่ 24 ตุลาคม 2546) จะต้องไม่เกิน 80,753 บาท ตามที่โจทก์ขอกับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความรวม 8,000 บาท
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันซื้อสินค้าประเภทอาหารกุ้ง ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งและปลาสดจากโจทก์รวม 5 รายการ ตามสำเนาใบส่งของและใบส่งของชั่วคราวเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 232,545 บาท เมื่อถึงกำหนดชำระแล้วจำเลยทั้งสองเพิกเฉยไม่ยอมชำระหนี้
คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์ประกอบอาชีพค้าขายสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งและปลาสด จำเลยทั้งสองรับสินค้าไปจากโจทก์จำนวน 5 รายการรวมเป็นเงิน 232,545 บาท ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเนื่องจากโจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าของที่ได้ส่งมอบภายในกำหนดอายุความสองปี ต่อมาในวันนัดชี้สองสถานทนายโจทก์และทนายจำเลยทั้งสองแถลงรับข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสั่งซื้อและรับสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์จริงตามฟ้อง ให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยโจทก์และจำเลยทั้งสองต่างไม่ติดใจสืบพยาน ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังยุติตามคำแถลงรับของคู่ความว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสั่งซื้อและรับสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์จริงตามฟ้อง คงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองซื้อสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งไปจากโจทก์ ทั้งเมื่อพิเคราะห์จำนวนสินค้าที่จำเลยทั้งสองซื้อจากโจทก์แต่ละครั้งมีจำนวนหลายรายการและมีปริมาณค่อนข้างมาก อีกทั้งสินค้าของโจทก์เป็นสินค้าประเภทอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งโดยสภาพของสินค้านั้นนำไปใช้กับกิจการเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งเท่านั้น ประกอบกับกิจการการเลี้ยงกุ้งเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าเป็นการเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายหาใช่เลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเองไม่ ดังนั้น ตามคำรับของจำเลยทั้งสองจึงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เพื่อไปใช้ในกิจการการเลี้ยงกุ้งของจำเลยทั้งสอง การที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ค่าสินค้าดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรมใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าสินค้าจากจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกหนี้ที่สั่งซื้อมาเพื่อใช้ในกิจการของลูกหนี้นั้นเอง สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (5) ประกอบมาตรา 193/34 (1) ตอนท้าย ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ชอบแล้ว”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share