แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่สัญญากู้เงิน 400 บาท สูญหายไปเพราะความประมาทเลินเล่อ  สาลรับฟังพยานบุคคลแทนเอกสารนั้นได้
พยานที่ได้ไห้การไว้โดยไม่ได้สาบานหรือปติญานตน แต่ได้มาสาบานตนรับรองว่าข้อความที่ตนได้เบิกความไปแล้วเปนความจิงไนพายหลังดังนี้ถ้อยคำของพยานที่ได้ไห้การไว้นั้นย่อมรับพังได้.
ย่อยาว
คดีนี้มีปัญหาขึ้นสู่สาลดีกาว่า (๑)  การที่สัญญากู้เงินกัน ๔๐๐ บาท  สูญหายไปเพราะความประมาทเลินเล่อไม่ไช่สูญหายโดยเหตุสุดวิสัยตามประมวนวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา ๙๓, ๙๔. นั้น  สาลจะรับฟังตามบุคคลแทนพยานเอกสารนั้นได้หรือไม่  (๒) การที่พยานเข้าเบิกความโดยมิได้สาบานหรือปติญานตนเสียก่อน  แล้วพายหลังถูกเรียกกลับเข้าสาบานตนว่าที่เบิกความไปแล้วนั้นเปนความจิง  เช่นนี้  การที่สาลรับฟังคำเบิกความนั้นจะขัดกับประมวนกดหมายวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา ๑๑๒, หรือไม่
สาลดีกาเห็นว่า  (๑)  การสูญหายนั้นไม่จำต้องเปนโดยเหตุสุดวิสัย  สาลก็อนุญาตไห้นำพยานบุคคลมาสืบได้ตาม ป.วิแพ่งมาตรา ๙๓  (๒) ความที่ว่า “หรือไม่สามาถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น”  มีความหมายชัดหยู่แล้ว
(๒)  การที่พยานได้สาบานตนแล้วรับรองต่อสาลว่าข้อความที่ตนเบิกความไปแล้วเปนความจิง  นั้น  เปนการที่พยานได้สาบานตนเบิกความตามความมุ่งหมายของมาตรา ๑๑๒  แล้ว  ถ้อนคำของพยานที่ไห้การไว้ย่อมรับฟังได้.

