คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชายหยิงสมรสกันแล้ว +ฝ่ายละเลยไม่ไปจดทเบียนรับว่าเปนความผิดของหยิง+ดังนี้ ขายจะฟ้องเรียกและของหมั้นคืนไม่ได้.
ที่ดินแล้วไส่ชื่อผู้อื่นไนหน้าด้วย ย่อมไม่มีสิทธิขอถอนออก ที่ดินย่อมเปนสิทธิ+จำเลยฟ้องขอไห้สาลสแดงว่า+เจ้าของไนที่ดินแต่ผู้ สาลพิพากสาไห้ที่ดินเปนของโจทและจำเลยคนละครึ่งได้+การนอกประเด็นนอกคำขอ.

ย่อยาว

โจทฟ้องว่า เดิมโจทได้ไห้ผู้มีชื่อไปสู่ขอจำเลยที่ ๓ ต่อจำเลยที่ ๑, ๒. ผู้เป็นบิดามารดา ตกลงเอาเงินสินสอด ๑๖๐ บาท ทองหมั้นหนัก ๖ บาท และโจทได้แต่งงานกับจำเลยที่ ๓ แต่โจทไห้ทอดหมั้นเกินไปน้ำหนัก ๓ สลึงเฟื้องเมื่อหยู่กินด้วยกันแล้ว จำเลยไม่ไปจดทะเบียนสมรส โจทจึงขอไห้จำเลยคืนสินสอดและทองหมั้นกับทองหมั้นส่วนที่เกินไห้โจท และไนระหว่างหยู่กินด้วยกันนั้นโจทฝ่ายเดียวออกเงินซื้อที่นาโฉนดที่ ๒๓๗๔ แต่ได้ไส่ชื่อจำเลยที่ ๓ เปนผู้ถือกัมสิทธิร่วมกัน ขอไห้สาลสแดงว่าที่นานั้นเปนของโจทฝ่ายเดียว
ได้ความว่าโจทกับจำเลยที่ ๓ หยู่กินด้วยกันจนมีบุตร ๒ คน แต่มิได้จดทเบียนสมรสแล้วต่อมาไม่ได้หยู่กัน โจทไปได้ภรยาไหม่ จำเลยที่ ๓ ก็ไปมีสามีไหม่ นอกจากนี้ก็ได้ความตามฟ้อง
สาลชั้นต้นเห็นว่า โจทไม่มีสิทธิเรียกทองหมั้นและสินสอดคืน ส่วนที่นาเชื่อว่าจำเลยเปนผู้ออกเงินซื้อไว้ด้วยพิพากสายกฟ้อง
สาลอุธรน์เห็นว่า การไม่จดทเบียนสมรสเปนเพราะโจทและจำเลยที่ ๓ ไม่เอาไจไส่ไปจดเอง เมื่อไม่มีการจดทเบียนสมรสก็เรียกไม่ได้ว่าได้มีการสมรส โจทไม่มีสิทธิเรียกคืนสินสอดและทองหมั้นได้ตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิชมาตรา ๑๔๓๖ ส่วนที่นาปรากตว่ามีชื่อโจทและจำเลยที่ ๓ ไนโฉนดด้วยกัน ควนมีสิทธิคนละครึ่ง พิพากสากลับสาลชั้นต้น
โจทจำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่า การที่ไม่ได้จดทเบียนสมรสเปนเพราะทั้งสองฝ่ายละเลยกันเอง หาไช่จำเลยที่ ๓ ่ายเดียวปติเสธไม่ยอมจดทเบียนดังโจทฟ้องไม่ เมื่อหยิงไม่เปนฝ่ายผิดดังฟ้อง โจทก็อาสัยตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิชมาตรา ๑๔๓๖ เรียกคืนสินสอดทองหมั้นไม่ได้เลย ส่วนที่นาเมื่อจำเลยที่ ๓ ยินยอมไส่ชื่อโจทเปนเจ้าของร่วมด้วยและไม่มีเหตุหย่างไดที่จะเพิกถอนชื่อโจทออก โจทกับจำเลยที่ ๓ ก็ต้องมีกัมสิทธิร่วมกันและข้อที่จำเลยดีกาว่าที่สาลอุธรน์วินิฉัยไห้ที่นาเปนของโจทกับจำเลยที่ ๓ คนละครึ่ง เปนการตัดสินนอกประเด็นนอกคำขอนั้น ก็เห็นว่าสาลอุธรน์มีอำนาดตัดสินได้ตามประมวนกดหมายวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา ๑๔๒(๒) พิพากสาแก้คำพิพากสาสาลอุธรน์ไห้ยกคำขอโจทที่ขอไห้คืนทองหมั้นหนัก ๖ บาทและที่เกิน ๓ สลึงเฟื้องกับสินสอด ๑๖๐ บาท นอกจากที่แก้คงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์

Share