แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
แม้โรงแรมของจำเลยทั้งสองจะมีการให้บริการในส่วนของการนวดแผนโบราณโดยสถานที่นวดอยู่ภายในอาคารของโรงแรมก็ตาม แต่ลักษณะของการเข้ามาใช้บริการดังกล่าวก็เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นเพื่อต้องการพักผ่อนเท่านั้น ซึ่งการใช้บริการไม่จำต้องลงทะเบียนขอเปิดห้องพักเหมือนอย่างกรณีการเข้าพักอาศัยแบบค้างคืน การที่ ส. ขับรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถในโรงแรมของจำเลยทั้งสอง แล้วเข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณที่ให้บริการภายในโรงแรมของจำเลยทั้งสอง ส. จึงไม่ใช่คนเดินทางหรือแขกอาศัย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 674 เมื่อรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้สูญหายไป จำเลยทั้งสองในฐานะเจ้าสำนักโรงแรมจึงไม่ต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองส่งมอบรถยนต์คืนแก่โจทก์ หากส่งมอบคืนไม่ได้ขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่โจทก์ได้จ่ายไปคือวันที่ 17 มิถุนายน 2548 ถึงวันฟ้องคิดเป็นดอกเบี้ย 5,625 บาท รวมเป็นเงิน 305,625 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 300,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสอง กำหนดค่าทนายความให้ 5,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน บน 7727 จันทบุรี ไว้จากนางสาวนุชนาถ มีอายุการคุ้มครอง 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2547 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2548 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2548 เวลาประมาณ 23 นาฬิกา นายสมศักดิ์ขับรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถในโรงแรมของจำเลยทั้งสอง แล้วนายสมศักดิ์เข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณที่ให้บริการภายในโรงแรมของจำเลยทั้งสอง ขณะที่นายสมศักดิ์ยังใช้บริการนวดแผนโบราณอยู่ ปรากฏว่ารถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้ถูกลักไป โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยแล้วเป็นเงิน 300,000 บาท
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองต้องร่วมกับรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า การที่นายสมศักดิ์เข้าไปใช้บริการนวดแผนโบราณต้องมีการเปิดห้องพักเพื่อใช้บริการนวด ซึ่งเป็นการพักชั่วคราว นายสมศักดิ์จึงเป็นคนเดินทางและแขกอาศัย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674 นั้น เห็นว่า แม้โรงแรมของจำเลยทั้งสองจะมีการให้บริการในส่วนของการนวดแผนโบราณโดยสถานที่นวดอยู่ภายในอาคารของโรงแรมก็ตาม แต่ลักษณะของการเข้ามาใช้บริการดังกล่าวก็เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นเพื่อต้องการพักผ่อนเท่านั้น ซึ่งการใช้บริการไม่จำต้องลงทะเบียนขอเปิดห้องพักเหมือนอย่างกรณีการเข้าพักอาศัยแบบค้างคืน นายสมศักดิ์จึงไม่ใช่คนเดินทางหรือแขกอาศัย ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674 เมื่อรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้สูญหายไป จำเลยทั้งสองในฐานะเจ้าสำนักโรงแรมจึงไม่ต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ