คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6905/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์จะได้รับการอนุญาตหรือไม่ต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 แต่การที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวไม่ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะให้ทราบทั่วกัน โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่ให้ทราบว่ามีผู้ขอใช้ทางสาธารณประโยชน์ หากราษฎรผู้ใดมีส่วนได้เสีย ก็สามารถคัดค้านหรือแสดงความคิดเห็นได้นั้น ย่อมเป็นเหตุให้นายอำเภอทับคล้อไม่สามารถรายงานความเห็นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อพิจารณาตามคำขออนุญาตของโจทก์ได้ตามขั้นตอนและตามกำหนดเวลา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ผู้ยื่นคำขอที่ต้องได้รับผลกระทบต่อการดำเนินกิจการในความล่าช้าอันเกิดจากการกระทำของจำเลยที่จงใจขัดขวางการขออนุญาตใช้ทางสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างบ่อเก็บกากแร่แห่งที่ 2 ให้เกิดอุปสรรคและความล่าช้าในการดำเนินการ โจทก์เป็นผู้ซึ่งได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลย จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งการกระทำของจำเลยที่จงใจเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายอำเภอ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อ. มาตรา 157

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และ 157
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยไม่โต้แย้งกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า จำเลยเป็นกำนันตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 โจทก์ยื่นคำขออนุญาตใช้ทางสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างบ่อเก็บกากแร่แห่งที่ 2 ในท้องที่ตำบลเขาเจ็ดลูกต่อนายอำเภอทับคล้อ ซึ่งเป็นการขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 นายอำเภอทับคล้อมอบหมายให้จำเลยปิดประกาศการขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐของโจทก์หรือแบบ ท.ด.25 ไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการกำนันและบริเวณที่ดินที่ขออนุญาตแห่งละหนึ่งฉบับ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 จำเลยได้รับประกาศนั้นแล้ว แต่มิได้นำไปปิดไว้ตามคำสั่งของนายอำเภอทับคล้อ นายอำเภอทับคล้อจึงมีหนังสือสอบถามรวมทั้งให้จำเลยชี้แจงเหตุผล จำเลยไม่ได้ชี้แจง ต่อมานายอำเภอทับคล้อออกประกาศฉบับใหม่ส่งให้จำเลยนำไปปิดประกาศอีกครั้ง จำเลยได้รับประกาศดังกล่าวแล้ว แต่ไม่นำไปปิดไว้ในที่ดังกล่าวตามคำสั่งนายอำเภอทับคล้อ จากนั้นนายอำเภอทับคล้อมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไปดำเนินการปิดประกาศดังกล่าวแทนและสอบสวนลงโทษวินัยแก่จำเลย
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องหรือไม่ และการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ เมื่อพิจารณาระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาต ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 ข้อ 17 วรรคหนึ่ง ซึ่งกำหนดว่า “เมื่อได้มีการชันสูตรสอบสวนแล้ว ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด หรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ประกาศการขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐให้ทราบมีกำหนดสามสิบวันตามแบบ ท.ด.25 ประกาศนั้นให้ปิดไว้ในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริเวณที่ดินที่ขออนุญาตแห่งละหนึ่งฉบับ” และวรรคสอง กำหนดว่า “เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ส่งเรื่องพร้อมรายงานและชี้แจงเหตุผลว่าสมควรจะอนุญาตหรือไม่ หรือสมควรจะอนุญาตภายในเขตกว้างยาวและเนื้อที่เท่าใด เนื่องจากเหตุผลประการใด เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในเจ็ดวันทำการ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป” ปรากฏว่าหลังจากที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และมีการชันสูตรสอบสวนที่ดินที่ขออนุญาตเสนอให้นายอำเภอทับคล้อประกาศตามแบบ ท.ด.25 โดยปิดไว้ที่ที่ว่าการอำเภอทับคล้อ และมีคำสั่งลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ให้จำเลยซึ่งเป็นกำนันตำบลเขาเจ็ดลูกปิดประกาศไว้ที่ทำการกำนันและบริเวณที่ดินที่ขออนุญาตเพื่อให้ประชาชนทราบทั่วกัน แต่จำเลยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวโดยมิได้ชี้แจงเหตุผล ทั้ง ๆ ที่นายอำเภอทับคล้อมีหนังสือทวงถามจำเลยที่เพิกเฉยไม่ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 ตามคำสั่งถึง 3 ครั้ง โดยกำหนดให้จำเลยชี้แจงเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จำเลยก็ยังเพิกเฉยไม่ชี้แจงเหตุผลแห่งการเพิกเฉยที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ทราบแต่อย่างใด แม้ต่อมาจำเลยให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยตามรายงานการสอบสวนว่า สาเหตุที่ไม่ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 เนื่องจากมีราษฎรจำนวนหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลกว่า โจทก์ขัดขวางไม่ให้ราษฎรใช้เส้นทางและมีการขอออกโฉนดที่ดินทับเส้นทาง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จึงเกรงว่าหากปิดประกาศจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล และสารประกอบจากแร่และน้ำเสียจะก่อให้เกิดมลภาวะและอันตรายต่อราษฎรในพื้นที่ และในชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่า เหตุที่ไม่ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 เนื่องจากราษฎรมาร้องคัดค้าน และจำเลยเข้าใจว่าการปิดประกาศเป็นหน้าที่ของนายอำเภอ หากจำเลยไม่ปิดประกาศ นายอำเภอสามารถปิดประกาศได้ จำเลยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ เห็นว่า วัตถุประสงค์ของการปิดประกาศแบบ ท.ด.25 เพื่อต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะให้ทราบทั่วกัน โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่ให้ทราบว่ามีผู้ขออนุญาตใช้ทางสาธารณประโยชน์ หากราษฎรผู้ใดมีส่วนได้เสีย ก็สามารถคัดค้านหรือแสดงความคิดเห็นได้ ดังนั้น หากมีข้อเท็จจริงตามข้ออ้างของจำเลย จำเลยยิ่งสมควรปิดประกาศแบบ ท.ด.25 ทันทีที่ได้รับคำสั่ง เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่รับรู้และดำเนินการคัดค้านหรือแสดงความคิดเห็นตามขั้นตอนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตตามคำขอของโจทก์ จำเลยจะอ้างว่าเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของนายอำเภอนั้นฟังไม่ขึ้น หรือมิฉะนั้นจำเลยก็ควรชี้แจงเหตุขัดข้องต่อนายอำเภอทับคล้อเพื่อจะให้พิจารณาแก้ไขข้อขัดข้องต่อไปตามลำดับชั้น การที่จำเลยเพิกเฉยโดยไม่ชี้แจงเหตุผลใด ๆ พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักและเหตุผลให้รับฟังได้ว่า จำเลยจงใจขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายอำเภอทับคล้อที่ให้ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 ตามคำขออนุญาตใช้ทางสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างบ่อเก็บกากแร่แห่งที่ 2 ของโจทก์ แม้ว่าการที่โจทก์จะได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับอนุญาตตามคำขอต้องเป็นไปตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 โดยพิจารณาคุณสมบัติของโจทก์ผู้ขอ ที่ตั้ง สภาพและลักษณะของที่ดินที่ขอ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดแก่สภาพแวดล้อมโดยรอบและข้อคัดค้านอื่นอีกหลายประการก็ตาม แต่การที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวไม่ปิดประกาศแบบ ท.ด.25 ย่อมเป็นเหตุให้นายอำเภอทับคล้อไม่สามารถรายงานความเห็นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อพิจารณาตามคำขออนุญาตของโจทก์ได้ตามขั้นตอนและตามกำหนดเวลา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ผู้ยื่นคำขอที่ต้องได้รับผลกระทบต่อการดำเนินกิจการในความล่าช้าอันเกิดจากการกระทำของจำเลยที่จงใจขัดขวางการขออนุญาตใช้ทางสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างบ่อเก็บกากแร่แห่งที่ 2 ให้เกิดอุปสรรคและความล่าช้าในการดำเนินการ โจทก์เป็นผู้ซึ่งได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำดังกล่าวของจำเลย จึงเป็นผู้เสียหายซึ่งมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทั้งการกระทำของจำเลยที่จงใจเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายอำเภอดังกล่าว ทำให้ขั้นตอนตามระบบราชการเป็นไปด้วยความล่าช้านานกว่าปกติถึง 8 เดือนเศษ การทำงานต้องสะดุดหยุดลงไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดต่อไปได้ นายอำเภอทับคล้อไม่สามารถทำรายงานความเห็นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรตามระยะเวลาและขั้นตอนตามกฎหมายได้ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือต่อระบบราชการและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ดังที่โจทก์ฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 1 ปี

Share