แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา. ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น.
แม้ผู้ขอจะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น. ก็ยังอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนได้ (อ้างฎีกาที่ 1416/2506).
หากศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องดังกล่าวโดยไม่อนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม. ย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า คำสั่งศาลชั้นต้นเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด.
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่ผู้ขอร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียม. จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้พร้อมด้วยดอกเบี้ยจากจำเลย จำเลยปฏิเสธศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ และยื่นคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานโจทก์ได้ 1 ปาก แล้วสั่งงดไต่สวน และมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่ใช่คนอนาถา ให้ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์ หลังจากศาลชั้นต้นยกคำขอดังกล่าวได้ 6 วัน โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้น ให้พิจารณาคำขอของโจทก์ใหม่ เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานที่ศาลสั่งงดมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง หลังจากนั้นอีก 4 วัน โจทก์ยื่นอุทธรณ์ และแถลงตามที่ศาลชั้นต้นสอบถามว่าโจทก์ประสงค์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดการไต่สวน และที่ยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอของโจทก์ใหม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดการไต่สวนและยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์นั้น ต้องอุทธรณ์ภายใน 7 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย โจทก์อุทธรณ์พ้นกำหนด ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย ส่วนคำสั่งศาลชั้นต้นครั้งหลังเป็นเรื่องโจทก์ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอของโจทก์ใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรค 4 มีเหตุสมควรที่ศาลจะได้ไต่สวนฟังพยานหลักฐานของโจทก์ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีคำสั่ง ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ไต่สวน ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยพิพากษาให้ยกอุทธรณ์โจทก์ซึ่งอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดอุทธรณ์ และให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอของโจทก์ใหม่แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีและให้คืนค่าธรรมเนียมอุทธรณ์แก่โจทก์ทั้งหมด แต่มีความเห็นแย้งว่า คำร้องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ เป็นเพียงวิธีการอย่างหนึ่งซึ่งโจทก์อาจทำได้ก่อนร้องอุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156วรรคท้าย เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้พิจารณาคำขอใหม่ โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ไม่ได้ ต้องอุทธรณ์คำสั่งเดิม เมื่อยื่นอุทธรณ์พ้นกำหนด จะรับพิจารณาอุทธรณ์โจทก์ไม่ได้ อนึ่งศาลชั้นต้นยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์แล้ว โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต้องเสียค่าธรรมเนียมคำร้อง 20 บาท เห็นควรพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์คืนค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ให้โจทก์โดยหักไว้ 20 บาท จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์ โจทก์จะต้องอุทธรณ์โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 7 วันนับแต่วันมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์แล้ว ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนี้อีก ที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้งว่า คำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่เป็นเพียงวิธีการอย่างหนึ่งซึ่งอาจทำได้ก่อนร้องอุทธรณ์คำสั่ง เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาต โจทก์อุทธรณ์คำสั่งไม่ได้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาแล้วแม้โจทก์จะไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้น โจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่า โจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่1416/2506 และคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอของโจทก์ที่ขอให้พิจารณาใหม่นี้ ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าให้เป็นที่สุด คู่ความย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้ และในการอุทธรณ์ของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่โจทก์ร้องว่าเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 นั่นเองจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นควรไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่ของโจทก์เสียก่อนดังความเห็นศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน.