คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทั้งสี่เป็นเจ้าหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัท ธ.ส่วนจำเลยทั้งสี่จดทะเบียนจำนองที่ดินเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้และค่าอุปกรณ์การที่โจทก์ทั้งสี่ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้เอาจากกองทรัพย์สินของบริษัท ธ. ลูกหนี้ผู้ล้มละลายและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าเมื่อบังคับจำนองได้เงินชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินเพียงใดมูลหนี้ที่โจทก์ทั้งสี่ขอรับชำระในคดีล้มละลายก็ลดลงตามนั้นคำสั่งศาลชั้นต้นที่ได้อนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่ได้รับชำระหนี้ดังกล่าวมีผลเพียงให้โจทก์ทั้งสี่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามจำนวนที่ยื่นขอเท่านั้นหากไม่ให้โจทก์ทั้งสี่ไปยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วก็จะทำให้โจทก์ทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องเสียหายและเป็นการลบล้างอำนาจเจ้าหนี้ที่มีอยู่ การที่โจทก์ทั้งสี่ขอรับชำระหนี้และศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของบริษัท ธ. ลูกหนี้ผู้ล้มละลายจึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสี่ไม่ประสงค์จะบังคับเอาแก่ที่ดินตามบันทึกข้อตกลงเอกสารหมายจ.9อีกต่อไปแม้โจทก์ทั้งสี่จะได้ยินยอมให้จำเลยที่2ไถ่ถอนที่ดินที่จำนองคืนไป1แปลงแล้วก็ตามก็เป็นเพียงการรับชำระหนี้บางส่วนจากจำเลยทั้งสี่เท่านั้นโจทก์ทั้งสี่และจำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นคู่สัญญาจึงต้องผูกพันตามบันทึกข้อตกลงเอกสารหมายจ.9เมื่อจำเลยทั้งสี่เพิ่งโอนที่ดินที่จำนองให้แก่โจทก์ทั้งสี่เพียงบางแปลงเท่านั้นจำเลยทั้งสี่จึงต้องรับผิดโอนที่ดินที่จำนองแปลงที่เหลืออีก6แปลงตามบันทึกข้อตกลงเอกสารหมายจ.9แก่โจทก์ทั้งสี่

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ ร่วมกัน ให้ บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด กู้ยืม เงิน ไป โดย บริษัท ดังกล่าว ได้ ออก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ รวมเป็น เงิน 20,000,000 บาท ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ21 ต่อ ปี คิด ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2526 บริษัท ดังกล่าว เป็น หนี้ โจทก์ทั้ง สี่ จำนวน 27,446,575.32 บาท ใน การ นี้ จำเลย ทั้ง สี่ ได้ นำ ที่ดินจำนวน 14 แปลง พร้อม สิ่งปลูกสร้าง จดทะเบียน จำนอง เป็น ประกันหนี้ต่อมา จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ทำ บันทึก ยอม โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน พร้อม กับสิ่งปลูกสร้าง ที่ จำนอง เพื่อ เป็น การ ชำระหนี้ ของ บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด โดย ตีราคา ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง เท่ากับ ยอดหนี้ จำนวน 27,446,575.32 บาท จำเลย ทั้ง สี่ ได้ โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้าง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ เพียง 7 แปลง และ ขอ ซื้อ คืน ไป1 แปลง ส่วน ที่ดิน ที่ เหลือ อีก 6 แปลง จำเลย ทั้ง สี่ ผิดนัด ไม่ โอนให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สี่ ร่วมกัน โอน กรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2115, 44062, 44063, 10512, 10531 และ 113093พร้อม สิ่งปลูกสร้าง ที่ จำนอง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ หาก จำเลย ทั้ง สี่ไม่ โอน กรรมสิทธิ์ ขอให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของจำเลย ทั้ง สี่
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ว่า บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด ได้ ออก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ ราย ละ 5,000,000 บาทโดย มี จำเลย ทั้ง สี่ จำนอง ที่ดิน 14 แปลง ค้ำประกัน หนี้ และ ได้ ทำ บันทึกตกลง โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน 14 แปลง ที่ จำนอง ชำระหนี้ แทน บริษัท ดังกล่าวจริง จำเลย ที่ 2 ได้ โอน ที่ดิน รวม 7 แปลง ชำระหนี้ เป็น เงิน จำนวน24,500,000 บาท และ โจทก์ ทั้ง สี่ ยกเลิก สัญญา การ รับโอน กรรมสิทธิ์ตาม ข้อตกลง ฉบับ ลงวันที่ 19 เมษายน 2527 เนื่องจากบริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด ได้ ถูก ศาลชั้นต้น พิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาด ตาม คดีล้มละลาย หมายเลขแดง ที่ ล. 105/2527 โจทก์ ทั้ง สี่ได้ ยื่น คำขอ รับชำระหนี้ ใน คดีล้มละลาย ดังกล่าว โดย โจทก์ ทั้ง สี่อ้าง มูลหนี้ ตาม ตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 20,000,000 บาท และ ยอม ให้จำเลย ที่ 2 ไถ่ถอน ที่ดิน คืน 1 แปลง แสดง ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ ยกเลิกบันทึก ลงวันที่ 19 เมษายน 2527 เพื่อ บังคับ ตาม สัญญาจำนอง คดี ที่โจทก์ ทั้ง สี่ ขอรับ ชำระหนี้ อยู่ ใน ระหว่าง สอบสวน ของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาล ยัง มิได้ มี คำสั่ง ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ มีสิทธิ ได้รับชำระหนี้ ส่วน ที่ ขาด เป็น จำนวน เท่าใด โจทก์ ทั้ง สี่ จึง ไม่มี สิทธิ ฟ้องขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สี่ ร่วมกัน โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ โดย ให้ จำเลย ที่ 2 ที่ 3โอน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2115 ให้ จำเลย ที่ 1 โอน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 44062และ 44063 ให้ จำเลย ที่ 2 โอน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 10512 และ 10431ตำบล หนองค้างพลู อำเภอ หนองแขม กรุงเทพมหานคร ให้ จำเลย ที่ 4โอน ที่ดิน โฉนด เลขที่ 113093 หาก จำเลย ทั้ง สี่ ไม่ โอน ให้ ถือเอาคำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย ทั้ง สี่ โดย ทั้งนี้ ให้ โจทก์ ทั้ง สี่เป็น ผู้ ออก ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย ค่าภาษี รายได้ ใน การ โอน เอง
จำเลย ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ เป็น เจ้าหนี้ ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ของ บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด ส่วน จำเลย ทั้ง สี่ จดทะเบียน จำนอง ที่ดิน เป็น ประกัน เพื่อ การ ชำระหนี้ และ ค่าอุปกรณ์ การ ที่ โจทก์ ทั้ง สี่ ไป ยื่น คำขอ รับชำระหนี้ จาก กอง ทรัพย์สิน ของบริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด ลูกหนี้ ผู้ล้มละลาย และ ศาลชั้นต้น ได้ มี คำสั่ง ตาม ความเห็น ของ เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ ว่าเมื่อ บังคับจำนอง ได้ เงิน ชำระหนี้ ตาม ตั๋วสัญญาใช้เงิน เพียงใดมูลหนี้ ที่ โจทก์ ทั้ง สี่ ขอรับ ชำระ ใน คดีล้มละลาย ก็ ลดลง ตาม นั้นคำสั่งศาล ชั้นต้น ที่ ได้ อนุญาต ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ ได้รับ ชำระหนี้ ดังกล่าวมีผล เพียง ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ มีสิทธิ ที่ จะ ได้รับ ชำระหนี้ ตาม จำนวนที่ ยื่น ขอ เท่านั้น หาก ไม่ให้ โจทก์ ทั้ง สี่ ไป ยื่น คำขอ รับชำระหนี้ แล้วก็ จะ ทำให้ โจทก์ ทั้ง สี่ ซึ่ง เป็น เจ้าหนี้ ต้อง เสียหาย และ เป็น การ ลบล้างอำนาจ เจ้าหนี้ ที่ มี อยู่ ทั้ง ข้อเท็จจริง ก็ ไม่ปรากฏ ว่า โจทก์ ทั้ง สี่และ จำเลย ทั้ง สี่ ได้ ยกเลิก หรือ แสดง เจตนา ยกเลิก บันทึก ข้อตกลงเอกสาร หมาย จ. 9 ต่อ กัน ดังนั้น การ ที่ โจทก์ ทั้ง สี่ ขอรับ ชำระหนี้และ ศาลชั้นต้น ได้ อนุญาต ให้ รับชำระหนี้ จาก กอง ทรัพย์สิน ของบริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ธนกิจ จำกัด ลูกหนี้ ผู้ล้มละลาย จึง ยัง ถือไม่ได้ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ ไม่ประสงค์ จะ บังคับ เอา แก่ ที่ดิน ตาม บันทึกข้อตกลง เอกสาร หมาย จ. 9 อีก ต่อไป แม้ โจทก์ ทั้ง สี่ จะ ได้ยินยอม ให้ จำเลย ที่ 2 ไถ่ถอน ที่ดิน ที่ จำนอง คืน ไป 1 แปลง แล้ว ก็ ตามก็ เป็น เพียง การ รับชำระหนี้ บางส่วน จาก จำเลย ทั้ง สี่ เท่านั้นโจทก์ ทั้ง สี่ และ จำเลย ทั้ง สี่ ซึ่ง เป็น คู่สัญญา จึง ต้อง ผูกพัน ตามบันทึก ข้อตกลง เอกสาร หมาย จ. 9 ต่อไป เมื่อ โจทก์ ทั้ง สี่ ยัง ไม่ได้รับชำระหนี้ จาก ลูกหนี้ และ จำเลย ทั้ง สี่ เพิ่ง โอน ที่ดิน ที่ จำนองให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ เพียง บาง แปลง เท่านั้น จำเลย ทั้ง สี่ จึง ต้อง รับผิดโอน ที่ดิน ที่ จำนอง แปลง ที่ เหลือ อีก 6 แปลง ตาม บันทึก ข้อตกลงเอกสาร หมาย จ. 9 แก่ โจทก์ ทั้ง สี่
อนึ่ง ที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 2 โอน กรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนด เลขที่ 10431 ตำบล หนองค้างพลู อำเภอ หนองแขม กรุงเทพมหานคร พร้อม สิ่งปลูกสร้าง แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ นั้น เลขที่โฉนด ที่ดิน ไม่ถูกต้อง ตรง กับ ข้อเท็จจริง ที่ ถูก คือ โฉนด ที่ดินเลขที่ 10531 ศาลฎีกา เห็นสมควร แก้ไข ให้ ถูกต้อง
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ที่ 2 โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดินโฉนด เลขที่ 10531 ตำบล หนองค้างพลู อำเภอหนองแขม กรุงเทพมหานคร พร้อม สิ่งปลูกสร้าง แก่ โจทก์ ทั้ง สี่ นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์

Share