แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
รถจักรยานยนต์ของกลางที่จำเลยที่1กับพวกใช้แล่นไล่ตามและขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้เสียหายให้หยุดเพื่อทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย.ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สอง มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี ประกาศ ของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่11 ลง วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 จำคุก คนละ 20 ปี จำเลย ทั้งสอง ให้การ รับสารภาพ ชั้น สอบสวน และ จำเลย ที่ 2 ให้การ รับสารภาพใน ชั้น ศาล หลังจาก สืบ พยาน โจทก์ ไป บ้าง แล้ว เป็น เหตุ บรรเทา โทษลดโทษ ให้ จำเลย ที่ 1 หนึ่ง ใน สี่ จำเลย ที่ 2 หนึ่ง ใน สาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก จำเลย ที่ 1 15 ปี จำเลย ที่ 2 13 ปี4 เดือน รถจักรยานยนต์ ที่ ใช้ ใน การ กระทำ ผิด ให้ ริบ เสีย
จำเลย ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ ให้ ยกฟ้อง จำเลย ที่ 1 และ ไม่ ริบรถจักรยานยนต์ ของกลาง นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ปัญหา ข้อกฎหมาย ว่า ‘ฯ รถจักรยานยนต์ ของกลาง ที่โจทก์ ฎีกา ขอ ให้ ริบ นั้น ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ว่า มิใช่ ทรัพย์ ที่คนร้าย ได้ ใช้ ใน การ กระทำ ความผิด จึง ไม่ ริบ โจทก์ ฎีกา ว่าเมื่อ คดี ฟัง ได้ ว่า จำเลย ที่ 1 ร่วม กระทำ ความผิด กับ จำเลย ที่2 และ พวก อีก 1 คน รถจักรยานยนต์ ของกลาง จึง เป็น ทรัพย์ ที่ จำเลยกับพวก ได้ ใช้ ใน การ กระทำ ความผิด ปัญหา ว่า ยานพาหนะ ใด เป็นทรัพย์สิน ที่ ได้ ใช้ ใน การ กระทำ ความผิด ซึ่ง ศาล พึง สั่ง ริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) นั้น ต้อง พิจารณา ตาม พฤติการณ์ เป็นเรื่องๆ ไป ว่า ผู้ กระทำ ผิด ได้ ใช้ ยานพาหนะ นั้น ใน การ กระทำความผิด หรือไม่ รถจักรยานยนต์ ของกลาง คดี นี้ จำเลย ที่ 1 ใช้ ขับขี่โดย มี พวก นั่ง ซ้อนท้าย แล่น ไล่ตาม และ ขับ ปาดหน้า รถจักรยานยนต์ผู้เสียหาย ให้ หยุด เพื่อ ที่ จะ ทำการ ปล้นทรัพย์ ผู้เสียหาย ถือ ได้ว่า รถจักรยานยนต์ ของกลาง เป็น ทรัพย์สิน ที่ จำเลย ที่ 1 กับพวก ได้ใช้ ใน การ กระทำ ผิด ฐาน ปล้นทรัพย์ ซึ่ง ศาล มี อำนาจ สั่ง ให้ ริบเสีย ได้ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ฎีกา โจทก์ ใน ข้อนี้ ฟัง ขึ้น
พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ บังคับคดี ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น’