คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6858/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจอันเป็นเจ้าพนักงานว่าจำเลยทำสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์ และบัตร เอ.ที.เอ็มที่ธนาคารออกให้แก่จำเลยสูญหายไป ก็เพื่อประสงค์จะให้เจ้าพนักงานออกหลักฐานเพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานขอสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์ และบัตร เอ.ที.เอ็ม ใหม่จากธนาคารเท่านั้น อันเป็นการกระทำต่อเจ้าพนักงานโดยตรงแม้ความจริงจำเลยมิได้ทำสูญหาย หากแต่จำเลยได้มอบสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์และบัตร เอ.ที.เอ็ม ดังกล่าว ให้ไว้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการกู้ยืมเงินก็ตาม และการแจ้งความดังกล่าวจำเลยมิได้เจาะจงว่ากล่าวถึงโจทก์ โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง ทั้งโจทก์ก็ไม่มีสิทธิ ตามกฎหมายที่จะบังคับชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมจาก สมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์และบัตร เอ.ที.เอ็ม. ดังกล่าว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรตำบลปากน้ำโพว่าสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขานครสวรรค์ เลขบัญชี 605-1-43558-1และบัตร เอ.ที.เอ็ม. ของธนาคารกรุงไทย รหัส 1199ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด ออกให้แก่จำเลยสูญหายไปซึ่งเป็นความเท็จเพราะความจริงจำเลยมิได้ทำสูญหาย แต่จำเลยได้มอบสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์และบัตร เอ.ที.เอ็ม. ดังกล่าวให้ไว้แก่โจทก์เพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืม และจำเลยนำหลักฐานการแจ้งความไปขอทำสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์ใหม่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโดยโจทก์ไม่สามารถนำบัตร เอ.ที.เอ็ม.ฉบับเดิมไปกดเงินจากบัญชีของจำเลยเพื่อชำระหนี้โจทก์ได้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 จำคุก 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องจำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรตำบลปากน้ำโพอันเป็นเจ้าพนักงานว่าจำเลยทำสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์เอกสารหมาย จ.3 และบัตร เอ.ที.เอ็ม ของธนาคารกรุงไทย จำกัด รหัส 1199ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด ออกให้แก่จำเลยสูญหายไปซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ในข้อแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยนำข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวแจ้งต่อเจ้าพนักงานก็เพื่อประสงค์จะให้เจ้าพนักงานออกหลักฐานเพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานขอสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์และบัตร เอ.ที.เอ็ม. ใหม่จากธนาคารกรุงไทย จำกัด เท่านั้นอันเป็นการกระทำต่อเจ้าพนักงานโดยตรง มิได้เจาะจงว่ากล่าวถึงโจทก์แต่อย่างใด โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหายโดยตรงทั้งโจทก์ก็ไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะบังคับชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมจากสมุดคู่ฝากเงินออมทรัพย์และบัตร เอ.ที.เอ็ม. ดังกล่าว
พิพากษายืน

Share