คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาซื้อสินค้าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อแอร์โรมาสเตอร์ขนาด 1,200 บีทียูถึง60,000บีทียู ทั้งแบบแยกส่วนและแบบติดผนังของโจทก์ไปจำหน่าย กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยมีจำเลยที่ 21 ถึงที่ 9 เป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ได้แนบสำเนาสัญญาซื้อขายมาท้ายฟ้องด้วยในสัญญานี้ได้ระบุราคาของเครื่องปรับอากาศแต่ละชนิดและขนาดรวมทั้งวิธีการชำระเงินไว้แล้ว โจทก์ได้ส่งมอบเครื่องปรับอากาศให้จำเลยที่ 1 รับไปจำหน่ายครั้งละหลาย ๆ เครื่อง จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค 7 ฉบับ จำนวนเงินรวม805,863 บบาท ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์ โจทก์นำเช็คดังกล่าว 6 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นเหตุให้โจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้จำนวน 805,863 บาท จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ การที่โจทก์บรรยายถึงเรื่องเช็คมาด้วยกเพื่อแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศ คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172แล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวน ชนิด ขนาดและราคาของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่โจทก์ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ในแต่ละครั้ง เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาซื้อเครื่องปรับอากาศยี่ห้อแอร์โรมาสเตอร์ ขนาด 12,000 บีทียู ถึง 60,000 บีทียู ทั้งแบบแยกส่วนและแบบติดผนัง กำหนดระยะเวลาซื้อขายกัน 1 ปี ตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อสินค้าไปจำหน่ายท้ายฟ้อง โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นผู้ค้ำประกัน ตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือค้ำประกันท้ายฟ้อง โจทก์ได้ส่งสินค้าให้จำเลยที่ 1 ครั้งละหลาย ๆ เครื่องแล้วจำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คชำระราคามาโดยตลอด แต่มีเช็ค 7 ฉบับ จำนวนเงิน 805,863 บาท เรียกเก็บเงินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 ตามสัญญารวม 805,863 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งเก้าร่วมกันชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 5 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 8 และที่ 9 ให้การต่อสู้หลายประเด็น ประเด็นหนึ่งมีว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับสินค้าไปจากโจทก์จำนวนเท่าใด มีสินค้าอะไรบ้าง และจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าสินค้าให้โจทก์แล้วเท่าใด ยังคงค้างอีกเท่าใดไม่ชัดแจ้งแห่งข้อหาเป็นฟ้องเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาในประเด็นข้ออื่นอีกต่อไป

จำเลยที่ 9 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับตามคำฟ้องของโจทก์คดีนี้ก็คือ เรื่องสัญญาซื้อขายและจำนวนเงิน 805,863 บาท ที่โจทก์ขอบังคับให้จำเลยชำระพร้อมด้วยดอกเบี้ย ส่วนข้ออ้างที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาดังกล่าวก็คือ การที่จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อสินค้าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อแอร์โรมาสเตอร์ขนาด 12,000 บีทียู ถึง 60,000 บีทียู ทั้งแบบแยกส่วนและแบบติดผนังของโจทก์ไปจำหน่าย กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นผู้ค้ำประกัน และโจทก์ได้แนบสำเนาภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อสินค้าไปจำหน่ายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 มาท้ายฟ้องด้วย ซึ่งตามข้อสัญญาที่ว่านี้ได้กำหนดราคาของเครื่องปรับอากาศแต่ละชนิดและขนาดรวมทั้งวิธีการชำระเงินไว้แล้ว โจทก์ได้ส่งมอบสินค้าเครื่องปรับอากาศตามสัญญาดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 รับไปจำหน่ายครั้งละหลาย ๆ เครื่อง จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ครวม 7 ฉบับ รวมจำนวนเงิน 805,863 บาท ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์ โจทก์นำเช็คดังกล่าวจำนวน 6 ฉบับไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 6 ฉบับ เป็นเหตุให้โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 805,863 บาท จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ การที่โจทก์บรรยายถึงเรื่องเช็ค 7 ฉบับมาด้วยเพื่อแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ค่าสินค้าเครื่องปรับอากาศตามสัญญาดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวน ชนิด ขนาดและราคาของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลยที่ 1 แต่ละครั้งเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมแต่อย่างใดไม่

พิพากษายืน

Share