แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้ทำพิธีแต่งงานกับบุตรีจำเลย แล้วโจทก์ไม่นำพาต่อการจดทะเบียนสมรส โจทก์จะมาฟ้องเรียกค่าสินสอดคืนไม่ได้.
(อ้างฎีกา 269/2488)
ย่อยาว
ความว่า โจทก์ได้ทำพิธีแต่งงานกับนางอารีบุตรจำเลย โดยเสียค่าสินสอด ๔๐๐๐ บาท แล้วโจทก์ไม่นำพาต่อการจดทะเบียนสมรส โจทก์ฟ้องเรียกเงินสินสอดกับเงินค่ารับไหว้คืนจากจำเลย ซึ่งเป็นบิดามารดานางอารี จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า เงินค่าสินสอดและเงินค่ารับไหว้ จำเลยได้ซื้อเครื่องเรือนและมอบให้นางอารีไปหมดแล้ว การจดทะเบียนสมรสเป็นหน้าที่ของโจทก์กับนางอารี จำเลยไม่ได้ขัดขวาง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า การจดทะเบียนสมรสเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ ฝ่ายจะพึงกระทำ เมื่อต่างไม่ทำหน้าที่และไม่ปรากฎว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดแล้ว โจทก์จะเกณฑ์ให้จำเลยฝ่ายเดียวเป็นฝ่ายรับผิดไมไ่ด้
พิพากษายืน.