คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความตกลงให้ถือเอาสิ่งของใดเป็นจุดสำหรับวัดเขตที่พิพาทถ้าหากสิ่งนั้นไม่มีอยู่แล้ว คู่ความก็ต้องนำสืบในเรื่องเขตที่ไปตามกระบวนความ

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์จำเลยมีที่ดินติดต่อกัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยตัดฟันต้นทองหลางและต้นฝ้ายที่โจทก์ปลูกเป็นแนวเขตไว้ ขอให้ห้ามและใช้ค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายปลูกอยู่ในที่ของจำเลย

ในชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยตกลงกัน ให้ถือเอาเนื้อที่ดินของจำเลยว่ามีจริงตามโฉนดที่จำเลยอ้าง แต่ให้วัดสอบเขตดูว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของฝ่ายใด โดยวัดสอบเขตของจำเลยคือวัดจากด้านใต้ตรงหัวคันนาและมีรั้วกั้นเป็นจุดปลายทั้งสองข้างตรงขึ้นไปทางเหนือข้างละ 60 เมตร แล้วลากเส้นตรงจากจุดทั้งสองนี้ ถ้าปรากฏว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของฝ่ายใด ฝ่ายนั้นเป็นเจ้าของและต่างยอมถือเป็นแนวเขตระหว่างกันต่อไป

เมื่อเจ้าพนักงานออกไปวัดสอบเขตปรากฏว่า หัวคันนาและรั้วไม่มีตามที่ท้ากันไว้ โจทก์จำเลยต่างนำชี้เถียงกัน คือโจทก์นำชี้ตามเส้นสีเขียว จำเลยนำชี้ตามเส้นสีแดงในแผนที่ ซึ่งถ้าถือตามที่โจทก์ชี้ต้นทองหลางและต้นฝ้ายก็อยู่ในเขตที่ของโจทก์ ถ้าถือตามที่จำเลยนำชี้ก็อยู่ในเขตที่ของจำเลย แต่โจทก์จำเลยตกลงกันให้ศาลชี้ขาดตามรูปแผนที่นั้นว่า แนวเขตต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของฝ่ายใด โจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน

ศาลจังหวัดพระตะบองชี้ขาดว่า โจทก์จำเลยรับกันว่า ด้านใต้ของเขตที่จำเลยติดนาซึ่งเป็นของจำเลย ฉะนั้นส่วนที่เป็นป่าเป็นเนื้อที่ของโฉนด แต่ตามเส้นสีแดงที่จำเลยนำชี้กินเข้าไปในป่าราว 5 ถึง 11 เมตร เห็นว่าเนื้อที่ของจำเลยควรอยู่สุดป่าตามที่โจทก์นำชี้ จึงพิพากษาว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยเห็นว่า โจทก์จำเลยต่างเถียงกันในจุดที่ตั้งต้นวัด เมื่อปรากฏว่าหัวคันนาและรั้วกั้นไม่มีตามที่ท้ากันไว้ โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในที่ของโจทก์ ๆ จะต้องนำสืบ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบก็ฟังไม่ได้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในที่ของโจทก์ และในเรื่องนี้โจทก์จำเลยก็โต้เถียงกันอยู่ว่า เขตที่ตามโฉนดของจำเลยทางด้านใต้อยู่ตรงไหน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานประกอบให้ฟังได้ว่า แนวต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของโจทก์และทั้งไม่ปรากฏว่าฝ่ายใดครอบครองที่นั้นอยู่แล้วโจทก์ก็หาอาจชนะคดีได้ไม่

ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยเห็นว่า ตามรายงานที่คู่ความตกลงกันให้ถือแนวหัวคันนาและมีรั้วกั้นเป็นแนวเขตที่ของจำเลยทางด้านใต้แต่ไม่ปรากฏว่ามีหัวคันนาและมีรั้วกั้น เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ศาลเห็นว่า แนวเขตที่ของจำเลยทางด้านใต้อยู่ตรงไหนแล้ว ก็รู้ไม่ได้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตที่ของใคร คดีโจทก์จึงต้องแพ้

Share