แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทฟ้องขอไห้สาลสแดงว่าที่พิพาทเปนสิทธิแก่โจทแต่ชั้นพิจารนาได้ความว่า ที่รายพิพาทนั้น เปนของโจทและน้องสาวคนละครึ่งโดยน้องสาวโจทไม่ได้มอบอำนาดไห้โจทฟ้องเช่นี้ แม้จะได้ความต่อมาว่า ที่เปนของโจทครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปรากตไนแผนที่ว่ามีเขตเพียงใด สาลย่อมพิพากสาลแดงสิทธิไห้โจทไม่ได้
ย่อยาว
โจทฟ้องขอไห้สาลสแดงว่าที่พิพาทเปนสิทธิแก่โจท หย่าไห้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องและไช้ค่าเสียหาย ๓๐ บาท
จำเลยไห้การต่อสู้กับสิทธิ
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์ฟังว่าที่พิพาทเปนของโจท จึงพิพากสากลับไห้ที่พิพาทเปนของโจท ห้ามมิไห้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องและไห้ไช้ค่าเสียหาย ๑๐ บาท
จำเลยดีกาว่า ที่รายพิพาทเปนของจำเลย และโจทกล่าวไนฟ้องว่าที่รายพิพาทเปนของโจท แต่โจทเบิกความว่าที่รายพิพาทเปนของนางบิเดาะครึงหนึ่งต่างแยกปกครองโจทจึงนำคดีของผู้อื่นมาฟ้อง ไม่ควนรับฟ้อง
สาลดีกาเห็นว่า ข้อเท็ดจิงฟังไม่ได้ว่านายสะละบิดาโจทอาลัย แต่ข้อที่โจทกล่าวไนฟ้องว่าที่รายนี้เปนมรดกของสายสะอะตกได้แก่โจทนั้น โจทกลับเบิกความว่าที่รายนี้เปนมกดกตกได้แก่โจทกับนางบิเดาะน้องสาวโจทคนละครึงได้แบ่งเปนส่วนสัดไปแล้ว ที่โจทฟ้องคดีนี้ ฟ้องรวมไปทั้งที่ดินของนางบิเดาะด้วย เปนอันว่าโจทฟ้องแทนนางบิเดาะด้วยแต่ไม่ปรากตว่าโจทได้รับมอบอำนาจจากนางบิเดาะหย่างไร โจทจึงไม่มีอำนาดฟ้องแทนนางบิเดาะ ฉนั้นข้อที่โจทขอไห้สาลสแดงว่าที่รายพิพาทนี้ทั้งหมดเปนสิทธิแก่โจท จึงส.แดงไห้ไม่ได้ ข้อที่ได้ความว่าเปนของโจทครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ปรากตตามแผนที่ว่ามีเขตเพียงใด จึงยังไม่สมควนพิพากสาสแดงสิทธิไห้โจท
จึงพิพากสาแก้ว่า คงแต่ไห้จำเลยไช้ค่าเสียหาย ๑๐ บาท นอกนี้ไห้ยกเสีย