แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังเมื่อวันที่ 29ธันวาคม 2542 โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2543 ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 คดีของโจทก์ไม่มีข้อยุ่งยาก เอกสารที่อ้างมีจำนวนไม่มากนัก โจทก์ย่อมสามารถทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ แต่โจทก์กลับไม่กระทำอ้างว่ามีงานอาจารย์อีกหลายอย่างที่จะต้องปฏิบัติ ทั้งโจทก์มีทนายความแม้ทนายความโจทก์จะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่แต่โจทก์ก็สามารถให้ทนายความยื่นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้การที่โจทก์เดินทางกลับจากการสอนเสริมในต่างจังหวัดโดยเครื่องบินเที่ยวเช้าในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 ไม่ได้จนต้องเดินทางโดยเครื่องบินเที่ยวบ่าย ทำให้ยื่นอุทธรณ์ไม่ทัน เป็นข้อบกพร่องของโจทก์เอง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ที่ยื่นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์2543 อีกได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 83
ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 4และที่ 5 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 โจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์อีกเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2543 ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่ากรณีมีเหตุสุดวิสัยที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้หรือไม่คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม2542 ในเบื้องต้นโจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังแต่โจทก์อ้างว่ายังไม่ได้รับสำเนาคำเบิกความ สำเนาเอกสาร และสำเนาคำพิพากษา จึงยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2543 ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 ซึ่งเป็นระยะเวลาเดือนเศษคดีของโจทก์ไม่มีข้อยุ่งยาก เอกสารที่อ้างมีจำนวนไม่มากนัก ระยะเวลาดังกล่าวโจทก์ย่อมสามารถทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้แต่โจทก์กลับไม่กระทำ อ้างว่ามีงานอาจารย์อีกหลายอย่างที่จะต้องปฏิบัติ นับว่าโจทก์วางใจมากเกินไป ก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์2543 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์โจทก์อ้างว่าต้องไปสอนเสริมที่จังหวัดลำปางและจังหวัดแพร่ในวันที่20 และ 27 กุมภาพันธ์ 2543 โดยมีกำหนดกลับที่พักในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 ก่อนเวลา 13 นาฬิกา ซึ่งโจทก์จะเดินทางโดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด ในเที่ยวบินช่วงเช้าแต่เที่ยวบินเต็ม จึงเดินทางกลับเที่ยวบินเวลา 15.15 นาฬิกา ทำให้ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ทัน แม้โจทก์จะมีภารกิจดังกล่าวแต่โจทก์ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าในฐานะที่โจทก์เป็นคู่ความผู้มีสิทธิอุทธรณ์ โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลอนุญาตให้ขยายไม่ใช่ปฏิบัติภารกิจอื่นจนใกล้ชิดกับวันที่โจทก์จะต้องไปยื่นอุทธรณ์คดีนี้โจทก์มีทนายความแม้ทนายความโจทก์จะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่โจทก์ก็สามารถให้ทนายความยื่นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้ การที่โจทก์เดินทางโดยเครื่องบินเที่ยวเช้าในวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2543 ไม่ได้จนต้องเดินทางโดยเครื่องบินเที่ยวบ่าย ทำให้ยื่นอุทธรณ์ไม่ทันเป็นข้อบกพร่องของโจทก์เอง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อีกได้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน