แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาผู้ร้องเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง กรณีจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขแล้ว ไม่รับฎีกา
ผู้ร้องเห็นว่า ฎีกาของผู้ร้องในประเด็นที่ว่าการที่ผู้คัดค้านซื้อที่ดินจากนางแตเรียบรัตน์ภายหลังจากที่ทราบดีว่าผู้ร้องและนางแตเรียบรัตน์มีคดีฟ้องร้องกันเกี่ยวกับที่พิพาทอยู่ในศาล การซื้อขายดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ผู้คัดค้านได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 84)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2590ตำบลบึงแกอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดอุบลราชธานี(ปัจจุบันจังหวัดยโสธร) ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนางต่วน สนามคำ ผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานของผู้คัดค้านไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามกระบวนความแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับบัญชีระบุพยานของผู้คัดค้านแล้วพิจารณาพิพากษายกคำร้องขอของผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 82 แผ่นที่ 2)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้อง ของ ผู้ร้อง โดยฟังข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องไม่ได้ครอบครองที่ดินพิพาทโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี จึงเห็นว่า ปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องที่ว่าหากผู้คัดค้านซื้อที่ดินพิพาทจากนางแตเรียบรัตน์ภายหลังจากที่ทราบว่าผู้ร้องและนางแตมีคดีฟ้องร้องกันเกี่ยวกับที่ดินพิพาท การซื้อขายดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น แม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะถึงจะวินิจฉัยก็ไม่อาจทำให้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีผลเปลี่ยนแปลง ไป ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของผู้ร้อง ศาลฎีกาเห็นพ้อง ด้วยในผลให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
