แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีสุราไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษฐานกินสุรา แม้จะเป็นการแก้ไขมาก แต่โทษปรับไม่เกินพันบาทฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันมีและกินน้ำตาลดองเมาซึ่งมีแรงแอลกอล์อฮอล์สามารถดื่มกินมึนเมาได้เช่นเดียวกับสุรา.
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายหู้จำเลยตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๓๖ มาตรา๓,๘ และลงโทษนายรอดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในจุลศักราช ๑๒๔๘ มาตรา ๖.
นายหู้จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฟังได้แต่เพียงว่ากินเท่านั้น จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษนายหู้ตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในจุลศักราช ๑๒๔๘ มาตรา ๖ แต่ฐานเดียว.
โจทก์ฎีกาว่าตามหลักฐานพะยานโจทก์ควรฟังว่าจำเลยมีน้ำตาลเมาไว้ในความครอบครองควรลงโทษฐานนี้ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ ๑๖๐ บาท ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยเพียงแต่กินสุราปรับ ๒๐ บาท ทั้งนี้แม้เป็นการแก้ไขมาก แต่โทษปรับก็ไม่เกินพันบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงคดีนี้โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามกฎหมาย จึงให้ยกฎีกาโจทก์.