คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกล่าวว่า เวลาสามีจำเลยถูกจับไม่เห็นมีสุราเถื่อน พอส่งสถานีตำรวจจึงมีสุราเถื่อน จำเลยอีกคน 1 กล่าวสนับสนุนว่ากฎหมายเมืองไทยใช้ไม่ได้ดังนี้ ยังไม่เป้นความผิดมาตรา 104

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านางสินจำเลยกล่าววาจาให้ปรากฏแก่คนทั้งหมายว่า “สามีถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับเรื่องทำสุราเถื่อนมาต้องขังอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรยังประกันตัวไม่ได้ ขณะที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นบ้านเรือนไม่ได้ของกลางอย่างใดมา แต่เมื่อกลับมาส่งสถานีตำรวจกลับปรากฏว่ามีสุราเถื่อนของกลางด้วย” และนายฮิ้มจำเลยก็กล่าวคำสนับสนุนว่า “กฎหมายเมืองไทยใช้ไม่ได้” อันทำให้เกิดดูหมิ่นราชหารของประเทศไทยในหมู่ประชาชนถึงกับจะก่อความไม่สงบขึ้นในแผ่นดิน ของให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒ ตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๐๔
ศาลชั้นต้นงดไม่สืบพะยานแล้วพิพากษาลงโทษนายฮิ้มจำเลยตามฟ้อง ส่วนนางสินเห็นว่าไม่ผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้างหากจะเป้นผิดก็ผิดมาตราอื่นที่โจทก์มิได้อ้าง และไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอื่นนอกจากที่ขอมา และไม่เป็นการสมคบกับนายฮิ้มจำเลยจึงปล่อยนางสินจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่านางสินจำเลยไม่มีผิดมาตรา ๑๐๔ และคดีนี้โจทก์บรรยายข้อความในฟ้องเพื่อลงดทษจำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างโดยชัดเจน ศาลจึงลงโทษจำเลยฐานอื่นไม่ได้ ส่วนนายฮิ้มจำเลยก็ไม่มีผิดตามฟ้องเพราะติชมลอย ๆ แม้นายฮิ้มจะมิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็อาจพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ผล่อยนายฮิ้มจำเลยไปได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๘๕,๒๑๕ จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นปล่อยนายฮิ้มจำเลยไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคำกล่าวของนางสินยังไม่เป้นผิดตามกฎหมายที่ดจทก์อ้างและจะลงโทษนางสินจำเลยตามบทกฎหมายมาตราอื่นที่โจทก์นางสินจำเลยตามบทกฎหมายมาตราอิ่นที่โจทก์มิได้ขอและมิได้ประสงค์ให้ลงดทษก็ไท่ได้ ,ส่วนคำกล่าวของนายฮิ้มจำเลยก็เป็นคำกล่าวลอย ๆ ไม่ทำให้เกิดความดูหมิ่นราชการของประเทศไทยในหมู่ประชาชนและก่อให้เกิดปั่นปวนหรือกระด้างกระเดืองถึงกับจะก่อความไม่สงบขึ้นในแผ่นดินอย่างใดเลยนายฮิ้มจำเลยยังไม่มีความผิด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share