คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12564/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 22 (5) บัญญัติว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงเมื่อพรรคการเมืองที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกเลิกหรือยุบไป และมาตรา 65 (4) บัญญัติว่า พรรคการเมืองย่อมเลิกหรือยุบด้วยเหตุที่มีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบเลิกพรรคเสรีธรรมในวันที่ 6 กันยายน 2544 สมาชิกภาพของจำเลยในการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองและการดำรงตำแหน่งกรรมการสาขาพรรคเสรีธรรมย่อมสิ้นสุดในวันดังกล่าว ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ให้หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และกรรมการสาขาพรรคการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เข้าดำรงตำแหน่งและภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง จำเลยซึ่งเป็นกรรมการสาขาพรรคเสรีธรรมจึงมีหน้าที่ที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ พ้นจากตำแหน่งโดยยื่นตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2544 จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2544
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 84 ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทและปรับอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาทตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง จึงมีอายุความเพียงหนึ่งปีตาม ป.อ. มาตรา 95 วรรคหนึ่ง (5) การไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นการหลีกเลี่ยงการกระทำที่กฎหมายบังคับให้กระทำ ความผิดของจำเลยจึงเสร็จสิ้นลงนับแต่ครบวันที่จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แม้มาตรา 84 จะบัญญัติให้ปรับจำเลยอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาทตลอดเวลาที่จำเลยยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ก็เป็นเพียงที่มีผลในทำนองกำหนดหน้าที่ให้จำเลยปฏิบัติภายหลังการกระทำความผิดเท่านั้น หามีผลทำให้ความผิดของจำเลยเป็นความผิดต่อเนื่องไม่
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า คดีของจำเลยในส่วนที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรา 84 ยังไม่ขาดอายุความและลงโทษปรับจำเลยย่อมไม่ชอบ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องแม้จำเลยไม่ได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกขึ้นว่ากล่าวเองได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 22 (5), 42, 65, 84 และให้จำเลยชำระค่าปรับไม่เกินวันละ 500 บาท นับแต่วันฝ่าฝืนจนกว่าปฏิบัติให้ถูกต้อง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 22 (5) วรรคหนึ่ง, 42 วรรคหนึ่ง, 65 (3) วรรคหนึ่ง, 84 ปรับ 10,000 บาท และปรับอีกวันละ 100 บาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง (นับแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2544) จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่พิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาท และปรับอีกวันละ 50 บาท ตลอดเวลา ที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง (นับถึงวันฟ้องเป็นเงิน 19,400) และให้ชำระค่าปรับอีกวันละ 50 บาท นับแต่วันถัดจากมี คำพิพากษาจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 22 (5) วรรคหนึ่ง, 42 วรรคหนึ่ง, 65 (3) วรรคหนึ่ง, 84 ให้ปรับจำเลยเป็นรายวัน วันละ 100 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงปรับวันละ 50 บาท นับแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2544 จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29, 30
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 22 (5) บัญญัติว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงเมื่อพรรคการเมืองที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกเลิกหรือยุบไป และมาตรา 65 (4) บัญญัติว่า พรรคการเมืองย่อมเลิกหรือยุบด้วยเหตุที่มีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมือง หาใช่ยุบเลิกในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 ตามที่ระบุในหนังสือแจ้งการยุบเลิกของนายทะเบียนพรรคการเมืองดังที่โจทก์ฎีกาไม่ เช่นนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคเสรีธรรมในวันที่ 6 กันยายน 2544 สมาชิกภาพของจำเลยในการเป็นสมาชิกของพรรคเสรีธรรมและการดำรงตำแหน่งกรรมการสาขาพรรคเสรีธรรมย่อมสิ้นสุดในวันดังกล่าวด้วย ซึ่งในกรณีนี้ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ให้หัวหน้าพรรคการเมืองกรรมการบริหารพรรคการเมือง และกรรมการสาขา พรรคการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เข้าดำรงตำแหน่งและภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง ดังนั้น จำเลยซึ่งเป็นกรรมการสาขาพรรคเสรีธรรมจึงมีหน้าที่ที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งโดยต้องยื่นนับแต่วันที่ 7 กันยายน 2544 จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2544 เมื่อจำเลยไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าว จึงต้องฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2544 เมื่อความผิดฐานนี้ตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทและปรับอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาทตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง จึงมีอายุความเพียงหนึ่งปีตาม ป.อ. มาตรา 95 วรรคหนึ่ง (5) เพราะการไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นการหลีกเลี่ยงการกระทำที่กฎหมายบังคับให้ต้องกระทำ ดังนั้น ความผิดของจำเลยดังกล่าวจึงเสร็จสิ้นลงนับแต่ครบวันที่จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หาใช่เป็นความผิดต่อเนื่องดังที่โจทก์ฎีกาไม่ และถึงแม้ว่ามาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัตินี้จะบัญญัติให้ปรับจำเลยอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาทตลอดเวลาที่จำเลยยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องก็ตาม ก็เป็นเพียงที่มีผลในทำนองกำหนดหน้าที่ให้จำเลยปฏิบัติภายหลังการกระทำ ความผิดเท่านั้น หามีผลทำให้ความผิดของจำเลยเป็นความผิดต่อเนื่องอันจะเป็นความผิดที่ไม่มีอายุความดังที่โจทก์ฎีกาดังกล่าวแล้วไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า คดีของจำเลยในส่วนที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน อันเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรา 84 ดังกล่าวยังไม่ขาดอายุความและลงโทษปรับจำเลยมาด้วยนั้นย่อมไม่ชอบ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกา แต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจที่จะ ยกขึ้นว่ากล่าวเองได้ตามนัยมาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 แห่ง ป.วิ.อ. ดังนั้น ศาลจะลงโทษปรับจำเลยเป็นรายวันหาได้ไม่
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share