คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6766/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

เมื่อถูกจับกุมแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การต่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้ร่วมจับกุมว่า จำเลยที่ 1 รับเงินจำนวน 140,000 บาท จาก จ. เพื่อไปซื้อเมทแอมเฟตามีนจากประเทศเพื่อนบ้านนำมาส่งมอบให้ที่บ้านของ จ. จึงมีการสอบสวนขยายผล จนในที่สุดสามารถติดตามไปจับกุม จ. จ. ไม่ยอมให้จับกุมแต่ได้ดื่มน้ำยาซักผ้าจนถึงแก่ความตายไปเสียก่อน จึงถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำความผิดผู้ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจหรือพนักงานสอบสวน กรณีมีเหตุสมควรลงโทษจำเลยที่ 1 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฯ มตรา 100/2
แม้จำเลยที่ 1 จะให้การรับสารภาพข้อหานำเข้าเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดทั้งในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวน แต่จำเลยที่ 1 กลับให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา จนเมื่อสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 จึงขอถอนคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพในข้อนี้ด้วย คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 จึงพอเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ที่ศาลลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามจึงเหมาะสมแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 ริบเมทแอมเฟตามีน และรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 65 วรรคสอง, 66 วรรคสอง, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานนำเข้าซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ทั้งชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52 (1) คงจำคุกตลอดชีวิต ของกลางให้ริบ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 มีว่า สมควรลงโทษจำเลยที่ 1 สถานเบากว่าที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกนำเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 7,560 เม็ด หนัก 709.2 กรัม มีปริมาณคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 186.57 กรัม จากประเทศสหภาพพม่าเข้ามาในราชอาญาจักรเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แต่ในทางนำสืบได้ได้ความว่า เมื่อถูกจับกุมแล้วจำเลยที่ 1 ให้การต่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้ร่วมจับกุมว่าจำเลยที่ 1 รับเงินจำนวน 140,000 บาท จากนายจรัญ บุญมา เพื่อไปซื้อเมทแอมเฟตามีนจากประเทศสหภาพพม่า นำมาส่งมอบให้ที่บ้านของนายจรัญจึงมีการสอบสวนขยายผลจนในที่สุดสามารถติดตามไปจับกุมนายจรัญ นายจรัญไม่ยอมให้จับกุม แต่ได้ดื่มน้ำยาซักผ้าจนถึงแก่ความตายไปเสียก่อน จึงถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำความผิดผู้ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน กรณีมีเหตุสมควรลงโทษจำเลยที่ 1 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 ฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อนี้ฟังขึ้น แต่ที่จำเลยที่ 1 ขอให้ลดโทษเพราะเหตุรับสารภาพถึงกึ่งหนึ่งด้วยนั้น เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 จะให้การรับสารภาพข้อหานำเข้าเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดทั้งในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน แต่จำเลยที่ 1 กลับให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา จนเมื่อสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 จึงขอถอนคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพในข้อนี้ด้วย คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 จึงพอเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่จำเลยที่ 1 หยิบยกขึ้นอ้างมีข้อเท็จจริงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในคดีนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามนั้น เป็นประโยชน์ต่อจำเลยที่ 1 มากอยู่แล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5

Share