คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676-689/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เช่าตึกจากสำนักงานทรัพย์สิน ฯ แล้วเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้ โดยมีผู้รบกวนขัดสิทธิ์ โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยได้ตาม ป.พ.พ.ม. 477 และ 549 แต่หามีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่โดยลำพังไม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกแล้ว ถ้ามิได้ได้แย้งไว้แต่แรก จะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ๆ ย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สิน ฯ ผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำเป็นยื่นฟ้องใหม่

ย่อยาว

คดีทั้ง ๑๔ สำนวนนี้ศาลรวมพิจารณาพิพากษาโจทก์ฟ้องว่าได้เช่าตึกเลขที่ ๘๖๙ ถึง ๘+๗ จากสำนักงานทรัพย์สินแต่ไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ โดยจำเลยทั้ง ๑๔ สำนวนนี้เข้าอยู่เสียก่อนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสำนักงานทรัพย์สิน ให้โจทก์ฟ้องเอง ขอให้ขับไล่ ในวันฟ้องโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอและสำนักงานทรัพย์สิน ฯได้เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วย
จำเลยต่างให้การว่าได้เช่าตึกพิพาทจากนายจิงลิ้มอยู่อาศัยกว่า ๒๐ ปี ได้รับความคุ้มคครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าและตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่ได้ครอบครอง ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าตั้งแต่โจทก์เช่าจากสำนักงานทรัพย์สินโจทก์ไม่เคยครอบครองตึกพิพาทเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องเองได้จึงไม่มีฟ้องที่สมบูรณ์ที่สำนักงานทรัพย์สิน ฯ จะเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจากคำแถลงของคู่ความในวันชี้สองสถานเป็นเรื่องที่จำเลยเช่าช่วงตึกที่พิพาทจากนายจิงลิ้มผู้เช่าเดิม และคงมิใช่การเช่าช่วงโดยข้อตกลงในสัญญาเช่ายังไม่พอเป็นการเช่าช่วงตาม ก.ม. จึงไม่มีสิทธิส่วนโจทก์มีสิทธิที่ครอบครองตึกพิพาทตลอดระยะสัญญาเช่า การที่จำเลยไม่ให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องพิพาทจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิ โจทก์จึงมีสิทธิโดยลำพังตนเองที่จะฟ้องขับไล่เพื่อจะได้ครอบครองที่นั้นตามสัญญาเช่า หรือจะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมก็ได้ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลย ๑๔ สำนวนฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์เช่าตึกพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สิน ฯ แล้วเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้โดยมีผู้ขัดขวางโจทก์หามีสิทธิจะฟ้องขับไล่โดยลำพังตนเองไม่ แต่ชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาร่วมเป็นโจทก์ด้วยได้ตาม ป.พ.พ.ม. ๔๗๗ และ ๕๔๙ เมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯ ผู้ให้เช่าได้รับหมายเรียกของศาลตาม ป.วิ.แพ่ง ม. ๕๗ ข้อ ๓ ย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนได้ ไม่จำต้องยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ ที่จำเลยคัดค้านว่าสำนักงานทรัพย์สินฯเข้ามาเป็นโจทก์เพียงแต่เสียค่าคำร้องไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมดังเช่นเป็นโจทก์ฟ้องย่อมไม่ชอบนั้น เห็นว่าค่าธรรมเนียมจะเรียกอย่างไรเป็นเรื่องของศาลชั้นต้น จำเลยมิได้โต้แย้งไว้แต่แรก เพิ่งมาคัดค้านในชั้นศาลนี้ไม่รับวินิจฉัย
จึงพิพากษายืน

Share