แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพากษาพิพาทเป็นของโจทก์อุทิศให้สุเหร่าและของให้ขับไล่จำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ดังนี้ แม้การอุทิศนั้นจะไม่สมบูรณ์ เนื่องจากสุเหร่าไม่เป็นนิติบุคคลไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้รับอุทิศได้ ศาลก็พิพากษาขับไล่จำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาทได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่า ที่ดินพิพาทและห้องเป็นของโจทก์อุทิศให้คณะอิสลามสุเหร่าวัดคิด ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหมายเลข ๕, ๖, ๗ ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องแถวหมายเลข ๑, ๒, ๓, ๔ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทและห้องแถวเป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของจำเลยไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยมาแล้วครั้งหนึ่งว่า สุเหร่าวัดคิดไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้รับอุทิศที่ดินรายนี้ได้ จึงคงมีแต่ผู้อุทิศ ไม่มีผู้รับอุทิศ การอุทิศจึงไม่สมบูรณ์ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทและห้องแถวเป็นของโจทก์อุทิศให้สุเหร่าวัดคิด มิใช่ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทและห้องแถวยังเป็นของโจทก์ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้พิพาทและห้องแถวเป็นของโจทก์ จึงเป็นการเกินคำขอไปจึงพิพากษาแก้ ให้ตัดข้อความเฉพาะตอนนี้ออกเสีย คงพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาทและห้องแถว ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไป กับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหมายเลข ๕, ๖, ๗ ออกจากที่พิพาท