คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำรอ 2 ปีของกลางริบ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่ริบปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลางไม่ได้ เพราะโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 6

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพาอาวุธปืนสั้นพร้อมกระสุนปืนของจำเลยที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ที่จะต้องมีอาวุธปืนติดตัวไป เหตุเกิดที่ตำบลหนองขาหย่าง อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ และสั่งริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ รับสารภาพลดกึ่งแล้วจำคุก ๓ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาท โทษจำรอไว้ ๒ ปี ริบของกลางตาม (ป.อาญา) มาตรา ๓๗๑
จำเลยอุทธรณ์ขอให้คืนของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ริบปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง แต่ให้คืนแก่จำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลอุทธรณ์นำพฤติการณ์ในการพกพาอาวุธปืนของจำเลยมาพิจารณาก็เพื่อใช้ดุลพินิจว่าสมควรริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางหรือไม่ ฎีกาโจทก์จึงเป็นเรื่องโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๙ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๑๗ มาตรา ๖ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาโจทก์มาเป็นการไม่ชอบ
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์

Share