คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความแถลงรับว่าโจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 24 หมู่ที่ 12 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย มาครั้งหนึ่งตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ 74/2515 ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี และมาฟ้องคดีนี้เพื่อให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือ น.ส.3 เลขที่ 224 หมู่ที่ 12 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย แล้วคู่ความต่างแถลงไม่สืบพยานโดยท้ากันขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาว่าคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่ ดังนี้คำแถลงรับของคู่ความดังกล่าวไม่มีข้อเท็จจริงอย่างใดที่จะให้ฟังว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน คดีของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำโจทก์ย่อมชนะคดีตามคำท้า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแบ่งขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) เลขที่ ๒๒๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ให้โจทก์ โจทก์ชำระราคาครบถ้วนแล้วจำเลยได้มอบการครอบครองแต่วันทำการซื้อขายกัน ตกลงจะทำการโอนกันในภายหลัง ต่อมาโจทก์ไปติดต่อให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ แต่จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินดังกล่าวให้โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์เคยฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่พิพาทให้แล้ว ตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๗๔/๒๕๑๕ ของศาลจังหวัดเลย คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์แต่เจ้าพนักงานที่ดินไม่โอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ เพราะหลักฐานทางทะเบียนขัดกับหลักฐานตามคำพิพากษาของศาลหรือเหตุอื่น ซึ่งโจทก์น่าจะดำเนินการให้ถูกต้องก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความแถลงรับกันว่า โจทก์ฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) เลขที่ ๒๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย มาครั้งหนึ่งตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๗๔/๒๕๑๕ ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี และโจทก์มาฟ้องคดีนี้เพื่อให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) เลขที่ ๒๒๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย แล้วคู่ความต่างแถลงไม่สืบพยาน โดยท้ากันขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาว่าคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นคนละเลขที่กันถือเป็นที่ดินคนละแปลง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ พิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) เลขที่ ๒๒๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลยให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องโจทก์ได้อ้างถึงที่ตั้งของที่ดินและอ้างเลขที่ของหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) สำหรับที่ดินซึ่งเป็นเอกสารของทางการมาคนละเลขที่กับคำฟ้องในคดีก่อน ไม่มีข้อเท็จจริงอย่างใดที่จะให้ฟังว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันดังจำเลยฎีกา คดีโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ศาลล่างพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำท้ายชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share