คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ท้าให้จำเลยฟันเพื่อทดลองคาถาอาคมซึ่งตนเชื่อถือและอวดอ้างว่าตนอยู่คงนั้น เป็นการที่โจทก์ได้ยอมหรือสมัครใจให้ จำเลยทำต่อร่างกาย เป็นการยอมรับผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเอง ตามกฎหมายจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงฟ้องจำเลย ให้รับผิดชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ไม่ได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2510)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดฟันทำร้ายโจทก์ จนโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วันและประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ป่วยเจ็บเรื้อรังแขนอาจพิการตลอดชีวิต ศาลมณฑลทหารบกที่ 5 พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย ขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย 36,834 บาท

จำเลยให้การว่า ได้ใช้มีดพร้าฟันทำร้ายร่างกายโจทก์จริงต่อสู้ว่าโจทก์เสพสุรามึนเมาแล้วอวดอ้างว่าเป็นผู้อยู่คงกระพันฟันไม่เข้า ให้จำเลยลองฟัน จำเลยไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ยอมให้จำเลยฟัน ไม่เป็นการละเมิดพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นการละเมิด พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,044 บาท กับดอกเบี้ย

โจทก์ฎีกา จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าจำเลยฟันโจทก์เพราะโจทก์อ้างว่าเป็นผู้อยู่คงและท้าทายให้จำเลยลองฟันดู จำเลยจึงฟันชอบด้วยรูปคดีแล้ว

ปัญหามีว่า จำเลยจะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์หรือไม่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การที่โจทก์ท้าให้จำเลยฟันเพื่อทดลองคาถาซึ่งตนเชื่อถือและอวดอ้างว่าตนอยู่คงนั้น เป็นการที่โจทก์ได้ยอมหรือสมัครใจให้จำเลยทำต่อร่างกายตน เป็นการยอมรับผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเอง ตามกฎหมายจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้รับผิดชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ไม่ได้

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share