คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดสืบพยานให้โจทก์ทราบล่วงหน้าเพียง 2 วัน ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 184 วรรคแรกซึ่งบัญญัติให้ศาลต้องออกหมายกำหนดวันสืบพยานให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ.

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสั่งงดชี้สองสถาน และกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 29 สิงหาคม 2529 ทนายโจทก์ได้รับหมายนัดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2529 ถึงวันนัดทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีพร้อมกับได้ยื่นบัญชีระบุพยาน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และโจทก์มิได้ยื่นคำร้องแจ้งข้อขัดข้องถึงเหตุที่มิได้ยื่นบัญชีพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วัน จึงไม่รับบัญชีพยาน ส่วนจำเลยก็มิได้ยื่นบัญชีพยานจึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีพยานโจทก์และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีนี้ไม่มีการชี้สองสถาน โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์ก่อน และได้ส่งหมายนัดดังกล่าวให้ศาลแพ่งเพื่อขอให้ส่งแก่ทนายโจทก์ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พนักงานเดินหมายนำหมายนัดนั้นส่งให้แก่นายสุชาติซึ่งอยู่สถานที่เดียวกันกับทนายโจทก์รับไว้เมื่อวันที่26 สิงหาคม 2529 ปรากฏตามรายงานการเดินหมายในสำนวนคดีนี้อันดับ 32ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อวันนัดสืบพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นวันที่ 29 สิงหาคม 2529 โจทก์จึงทราบวันนัดดังกล่าวก่อนวันสืบพยานเพียง 2 วัน การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและดำเนินคดีต่อไปในวันนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ เนื่องจากขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 184 วรรคแรก ซึ่งระบุให้ศาลออกหมายกำหนดวันสืบพยานส่งให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่าสามวัน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีพยานของโจทก์และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share