คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาในคดีอื่น ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในคดีหนึ่ง โจทก์คัดค้านว่าหนี้ซึ่งเจ้าหนี้นำมาฟ้องจำเลยนั้นเกิดขึ้นโดยสมยอมกันดังนี้ ศาลจำต้องไต่สวนฟังพยานหลักฐานว่าจำเลยเป็นหนี้จริงหรือไม่ ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีที่เจ้าหนี้ร้องขอเฉลี่ยเงินเสียก่อน เพราะโจทก์ยืนยันอยู่แล้วว่ามูลหนี้ที่เจ้าหนี้และจำเลยสมยอมกันก่อให้เกิดคำพิพากษาอันไม่มีมูลหนี้ และทำให้โจทก์เสียเปรียบเกิดขึ้น

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช คดีแดงที่ ๑๓๐/๒๕๐๒ ยื่นคำร้องของเฉลี่ยเงินในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในคดีนี้
โจทก์คัดค้านว่าผู้ร้องกับจำเลยสมยอมกันฟ้องเป็นคดีนี้ ซึ่งมิได้เป็นหนี้กันจริง เป็นการฉ้อเจ้าหนี้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นงดไต่สวนและมีคำสั่งให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยได้แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าต้องฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายก่อน พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ไต่สวนและทำคำสั่งใหม่
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลจำต้องไต่สวนฟังพยานหลักฐานว่าจำเลยเป็นหนี้จริงหรือไม่ ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องฟ้องขอให้ทำลายคำพิพากษาในคดีที่เจ้าหนี้ร้องขอเฉลี่ยเงินเสียก่อน เพราะโจทก์ยืนยันอยู่แล้วว่ามูลหนี้ที่เจ้าหนี้และจำเลยสมยอมกันก่อให้เกิดคำพิพากษาอันไม่มีมูลหนี้ และทำให้โจทก์เสียเปรียบเกิดขึ้น ถ้าได้ความจริงเช่นนี้ ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิจะขอเฉลี่ยได้
พิพากษายืน

Share