แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ตายและจำเลยเป็นสามีภรรยากัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายด่าโคตรพ่อโคตรแม่จำเลย ว่าจำเลยเป็นกะหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจนไล่จำเลยออกจากบ้านและใช้ไม้ขว้างจำเลย การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยาม ทั้งด่าไปถึงบุพการีของจำเลยและใช้ไม้ขว้างแสดงกิริยาคุกคามทำร้ายจำเลยเช่นนั้น ย่อมทำให้จำเลยรู้สึกแค้นเคืองเป็นอย่างมากเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 69 จำคุก 6 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุก 3 ปี โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 จำคุก 15 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุก 10 ปีจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ในปัญหาที่ว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวจริงหรือไม่นั้น จำเลยเบิกความว่า ผู้ตายลากไม้หน้าสามยาวประมาณ 1 เมตรจะไปตีจำเลย จำเลยจึงเอากระเป๋าขว้างผู้ตายแต่ผู้ตายยังเข้าไปจะตีจำเลย จำเลยจึงหยิบกระเป๋าอีกใบหนึ่งจะขว้างผู้ตายปรากฏว่าพบปืน จึงคว้าปืนแล้วหลับตายิงสวนไปที่ผู้ตายซึ่งยืนอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 2 เมตร ส่วนโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความ แต่มีนายสายันต์ ปัญญา บุตรของผู้ตายและจำเลยเบิกความว่าได้ยินบิดาด่าว่ามารดารุนแรงถึงขนาดด่าโคตรพ่อโคตรแม่และว่ามารดาเป็นกะหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจน และไล่มารดาออกจากบ้าน หลังจากนั้นได้ยินเสียงไม้กระทบประตูและได้ยินเสียงปืนดังพร้อม ๆ กัน นายสายันต์เป็นบุตรของจำเลยไม่น่าเชื่อว่าจะเบิกความปรักปรำจำเลย คำเบิกความจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อว่าเป็นความจริง และเสียงไม้กระทบประตูที่นายสายันต์เบิกความถึงน่าจะเกิดจากการที่ผู้ตายใช้ไม้ที่จำเลยอ้างว่าผู้ตายจะใช้ไม้ตีจำเลย ขว้างจำเลย ตามคำให้การของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้ตายได้ใช้ไม้ขนาดหน้าสามยาวประมาณ 1 เมตร ขว้างใส่ฝาสังกะสีซึ่งสอดคล้องกับสภาพและร่องรอยในที่เกิดเหตุตามบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุเอกสารหมาย จ.2 ที่ร้อยตำรวจเอกประสงค์ ศรีวงษ์ชัยพนักงานสอบสวนได้ทำขึ้นในวันเกิดเหตุซึ่งระบุว่า ที่ฝาห้องซึ่งทำด้วยสังกะสีข้างประตูมีรอยคล้ายถูกของแข็งกระทบกระสุนเป็นรูดังนั้นที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะผู้ตายถือไม้เข้าไปจะตีจำเลยจึงไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อมีเสียงไม้ดังขึ้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นพร้อม ๆ กันตามคำเบิกความของนายสายันต์ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าจำเลยถูกผู้ตายด่าและใช้ไม้ขว้าง จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันตัว
สำหรับปัญหาที่ว่า จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนที่จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ผู้ตายด่าโคตรพ่อโคตรแม่จำเลย ว่าจำเลยเป็นกะหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจน ไล่จำเลยออกจากบ้าน และใช้ไม้ขว้างจำเลย เห็นว่าการที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามทั้งด่าไปถึงบุพการีของจำเลย และใช้ไม้ขว้างแสดงกิริยาคุกคามทำร้ายจำเลย ย่อมทำให้จำเลยรู้สึกแค้นเคืองเป็นอย่างมาก เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการกระทำของจำเลยจึงมีเหตุบันดาลโทสะตามกฎหมาย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วย มาตรา 72 จำคุก 6 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามจำคุก 4 ปี