คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6651/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 24 หากศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นเป็นคุณแก่ฝ่ายที่ขอแล้ว แม้จะมีการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปก็ตาม แต่ข้อกฎหมายตามคำร้องขอนั้น ศาลก็ไม่ต้องพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดีในข้อนี้อีก การวินิจฉัยและสั่งเช่นนี้มิได้ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง หากเสร็จไปเฉพาะประเด็นบางข้อ ตามคำร้องของโจทก์ทั้งสอง (ที่ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น) เป็นปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญแห่งคดี ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะมีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวได้
สัญญาข้อตกลง ข้อ 18 เรื่องการระงับข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการระบุให้นำข้อพิพาทหรือความขัดแย้งระหว่างผู้รับเหมากับวิศวกร หรือผู้แทนของเจ้าของ โดยเกี่ยวข้องกับหรือเกิดขึ้นจากสัญญาหรือการปฏิบัติงาน ให้เสนอต่อวิศวกรและอนุญาโตตุลาการก่อน แต่ข้อพิพาทคดีนี้โจทก์ทั้งสองเป็นผู้รับเหมาเป็นคู่สัญญากับจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของ จึงไม่ตกอยู่ในเงื่อนไขของข้อสัญญา ข้อ 18 ที่ต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดเสียก่อน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยใช้เงินค่าจัดหาวัสดุอุปกรณ์แก่โจทก์ที่ 1 และใช้เงินค่าจ้างแก่โจทก์ที่ 2 พร้อมค่าเสียหายและดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญากับโจทก์ที่ 1 และที่ 2 จริง แต่โจทก์ทั้งสองผิดสัญญาเพราะไม่ได้ปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาตามสัญญาและไม่ได้ขอขยายเวลาต่อวิศวกรตามข้อกำหนดในสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องใช้เงินให้แก่โจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองไม่ได้เสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายว่าโจทก์ทั้งสองมีสิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยโดยมิต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการก่อนหรือไม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดว่า ข้อความตามสัญญาข้อ 18 มิได้หมายความถึงข้อพิพาทหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลย ข้ออ้างตัดฟ้องของจำเลยที่ให้โจทก์ทั้งสองเสนอข้อพิพาทในคดีนี้ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยก่อนจึงตกไปและให้ดำเนินคดีต่อไปตามลำดับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นแยกสำนวนอุทธรณ์ส่งศาลอุทธรณ์ ส่วนสำนวนหลักคงดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปในศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามคำร้องของโจทก์ทั้งสองไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 24 ที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดให้ แล้วพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสอง ค่าคำร้องและค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ทนายจำเลยยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546 ศาลชั้นต้นแจ้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เข้ามาดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 25 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงว่าไม่ประสงค์จะเข้าว่าคดี และขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดี ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอให้โจทก์กลับเข้ามาดำเนินคดีอีก กรณีไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะจำหน่ายคดีในสำนวนที่มีการฎีกา จึงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองที่ต้องวินิจฉัยว่า คำร้องของโจทก์ทั้งสองต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่ศาลจะพึงมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 24 หรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำร้องของโจทก์ทั้งสองปรากฏว่า ถ้าหากศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าโจทก์ทั้งสองฟ้องคดีนี้ได้โดยไม่ต้องเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการตามข้อต่อสู้ในคำให้การของจำเลย ซึ่งเป็นคุณแก่ฝ่ายโจทก์ทั้งสองผู้ขอให้ศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้วก็ยังต้องมีการพิจารณาคดีต่อไป และต้องพิจารณาข้อโต้เถียงระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลย ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นฝ่ายผิดสัญญาหรือไม่ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญแห่งคดี คำร้องของโจทก์ทั้งสองจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่ศาลจะพึงมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 24 ชอบที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้ยกคำร้อง นั้น เห็นว่า การที่คู่ความฝ่ายใดมีคำขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายนั้น ถ้าหากได้วินิจฉัยให้เป็นคุณแก่ฝ่ายนั้นแล้ว จะไม่ต้องมีการพิจารณาคดีต่อไปอีกหรือไม่ต้องพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดีบางข้อ ซึ่งข้อกฎหมายของโจทก์ทั้งสองที่ขอให้ศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นนั้น แม้วินิจฉัยให้เป็นแก่ฝ่ายโจทก์ทั้งสองแล้วก็ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปก็ตาม แต่ข้อกฎหมายตามคำร้องขอของโจทก์ทั้งสองหากศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นให้เป็นคุณแก่ฝ่ายโจทก์ทั้งสองแล้ว ศาลก็ไม่ต้องพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดีในข้อนี้อีก การวินิจฉัยและสั่งเช่นนี้มิได้ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง หากเสร็จไปเฉพาะประเด็นบางข้อ และตามคำร้องขอของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวเป็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นประเด็นสำคัญแห่งคดี ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะมีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวแล้วได้ ที่ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยดังกล่าว และพิพากษาให้ยกคำร้องของโจทก์ทั้งสองนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ทั้งสองข้อนี้ฟังขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองมีว่า ข้อพิพาทระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยในคดีนี้ต้องให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดก่อนฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลย ข้อ 18 เรื่องการระงับข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ ซึ่งจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้เพื่อตัดอำนาจฟ้องของโจทก์ทั้งสองนั้น ข้อพิพาทหรือความขัดแย้งประเภทใดก็ตามเกิดขึ้นระหว่างผู้รับเหมากับวิศวกรหรือผู้แทนของเจ้าของโดยเกี่ยวข้องกับหรือเกิดขึ้นจากสัญญาหรือการปฏิบัติงานให้เสนอต่ออนุญาโตตุลาการ ซึ่งคดีนี้โจทก์ทั้งสองในฐานะผู้รับเหมาและเป็นคู่สัญญากับจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของจึงหาตกอยู่ในเงื่อนไขของสัญญาข้อ 18 ที่ต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดเสียก่อนไม่ คงใช้บังคับเฉพาะข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างผู้รับเหมาคือโจทก์ทั้งสองกับบริษัทพรภัทรเรียลตี้แอนด์คอนสตรัคชั่น ผู้แทนของเจ้าของเท่านั้น หาหมายถึงจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นนิติบุคคลต่างหากจากบริษัทพรภัทรเรียลตี้แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ในฐานะผู้แทนของเจ้าของไม่ ดังนั้นโจทก์ทั้งสองจึงไม่จำต้องเสนอข้อพิพาทในคดีนี้ให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดก่อนฟ้อง โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้องคดีนี้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ.

Share