คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ระบุเนื้อที่ดินแต่ละแปลงของที่ดินทั้งสิบแปลงของโจทก์ที่ถูกเวนคืนไว้ด้วย รวมแล้วมีเนื้อที่ทั้งหมด 8 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา แต่โจทก์ระบุว่ารวมแล้วเป็นเนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มโดยคิดจากจำนวนเนื้อที่ที่โจทก์รวมผิดพลาดดังกล่าวในฟ้อง ต่อมาในชั้นบังคับคดีทั้งโจทก์และจำเลยแถลงข้อเท็จจริงตรงกันว่า ที่ดินของโจทก์มีจำนวนเนื้อที่ที่แท้จริงเพียง 8 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มขึ้นโดยคิดจากจำนวนเนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา อันเกิดจากการรวมเนื้อที่ดินที่ถูกเวนคืนผิดพลาดไปนั้น จึงเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยซึ่งไม่ใช่ข้อผิดพลาดในสาระสำคัญ แม้คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองดังกล่าวจะถึงที่สุดไปแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจแก้ไขข้อผิดพลาดหรือผิดหลงนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143 วรรคหนึ่ง เพราะการเพิ่มเติมแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยตามบทกฎหมายดังกล่าวจะกระทำเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วก็ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องระบุเนื้อที่ดินแต่ละแปลงของโจทก์ที่ถูกเวนคืนรวม ๑๐ แปลง รวมเนื้อที่ ๙ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา และขอเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มขึ้น จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การโต้เถียงเฉพาะเงินค่าทดแทนที่ดินที่โจทก์ฟ้องเรียกมานั้นสูงเกินไป ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มให้แก่โจทก์อีกพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเงินค่าทดแทนที่ดินที่ศาลชั้นต้นกำหนดเพิ่มให้แก่โจทก์นั้น สูงเกินไป ส่วนโจทก์ไม่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ยื่นคำแถลงขอวางเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มต่อศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา และโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำบังคับให้จำเลยที่ ๑ นำดอกเบี้ยส่วนที่ยังขาดมาชำระให้แก่โจทก์ เมื่อคำนวณยอดหนี้แล้ว ศาลชั้นต้นจึงออกคำบังคับให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินตามคำร้องขอของโจทก์ ครั้นเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำบังคับและงดการบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอ จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ ๑ ฎีกา ส่วนจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้แก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ในส่วนเกี่ยวกับจำนวนเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่ม ศาลฎีกาพิพากษากลับให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องขอแก้ไขคำพิพากษาของจำเลยที่ ๑ จนถึงที่สุดแล้ว ส่วนคำร้องขอแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ศาลฎีกามีคำสั่งว่าเป็นหน้าที่ของศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรที่จะมีคำสั่งเพิ่มเติมให้แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงหรือไม่ ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มให้แก่โจทก์เป็นเงิน ๑๒,๒๐๘,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเดิม และห้ามมิให้คัดสำเนาคำพิพากษาเดิม เว้นแต่จะได้คัดสำเนาคำสั่งเพิ่มเติมไปด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุเนื้อที่ดินแต่ละแปลงของที่ดินทั้งสิบแปลงของโจทก์ที่ถูกเวนคืนไว้ด้วย ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมีเนื้อที่เพียง ๘ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา ทั้งโจทก์แถลงยอมรับข้อเท็จจริงในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้นว่า ที่ดินของโจทก์ที่ถูกเวนคืนรวม ๑๐ แปลง มีจำนวนเนื้อที่ ๘ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา และตามสำเนาโฉนดที่ดินที่ถูกเวนคืนรวม ๑๐ ฉบับ ท้ายคำแถลงของจำเลยที่ ๑ ฉบับลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓ ปรากฏว่าที่ดินของโจทก์รวมกันแล้วมีจำนวนเนื้อที่ที่แท้จริงเพียง ๘ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา ไม่ใช่ ๙ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา ดังที่โจทก์รวมเนื้อที่ดินไว้ในคำฟ้อง ดังนั้นคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับผลรวมของจำนวนเนื้อที่ดินที่ถูกเวนคืนและคำขอให้ชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มจึงเกิดจากการคำนวณที่ผิดพลาด เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินเพิ่มโดยถือเอาจากจำนวนเนื้อที่ดินที่โจทก์รวมผิดพลาดดังกล่าวในฟ้อง จึงมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยซึ่งไม่ใช่ข้อผิดพลาดในสาระสำคัญ แม้คำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจะถึงที่สุดไปแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจเพิ่มเติมแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๓ วรรคหนึ่ง เพราะการเพิ่มเติมแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยตามบทกฎหมายดังกล่าวจะกระทำเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วก็ได้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้เพิ่มเติมแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงชอบแล้ว…
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share