แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัท ฟ. ได้ส่งสินค้าให้โจทก์ทางทะเล โดยโจทก์เอาประกันภัยสินค้าดังกล่าวไว้แก่จำเลย การประกันภัยดังกล่าวเป็นสัญญาประกันภัยทะเลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 868 ซึ่งจะต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายทะเลแต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายทะเลเกี่ยวกับสัญญาประกันภัยทะเล ทั้งไม่มีจารีตประเพณีเกี่ยวกับสัญญาเช่นว่านั้น เรื่องอายุความฟ้องเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยในคดีนี้จึงต้องนำไปประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 20 หมวด 2 ว่าด้วยการประกันวินาศภัย อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับคดีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 4 วรรคสาม (เดิม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เอาประกันภัยกระดาษกล่องสีขาว ที่สั่งซื้อจากบริษัทฟอร์เรสต์ โพรดักส์ เอ บี จำกัด ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศสวีเดนจำนวน 379 ม้วน น้ำหนัก 200 ตัน มูลค่ารวมค่าขนส่งเป็นเงิน 92,630.88 เหรียญสหรัฐ ไว้แก่จำเลยในวงเงินประกันภัย 105,600 เหรียญสหรัฐ เป็นการประกันภัยความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่สินค้าของโจทก์ในระหว่างการขนส่งจากคลังสินค้าของผู้ขายจนถึงคลังสินค้าของโจทก์ในประเทศไทย ซึ่งยินยอมให้เปลี่ยนประเภทและพาหนะที่ขนส่งได้กับเป็นกรมธรรม์ประกันภัยประเภทคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยทุกชนิด ต่อมาบริษัทฟอร์เรสต์ โพรดักส์ เอ บี จำกัด ได้ส่งสินค้าดังกล่าวมาถึงคลังสินค้าของโจทก์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2529 ปรากฏว่าสินค้าได้รับความเสียหายเป็นเงิน 4,890.99 บาท โจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้จำเลยชดใช้ต้นเงิน 8,890.99 บาท ดอกเบี้ย1,833.81 บาท รวมเป็นเงิน 10,724.80 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 8,890.99 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะสินค้าของโจทก์เสียหายเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2529 แต่โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2531 เป็นเวลาเกิน 2 ปีบริษัทฟอร์เรสต์ โพรดักส์ เอ บี จำกัด ไม่ได้ส่งสินค้าที่โจทก์เอาประกันภัยไว้แก่จำเลยมาให้โจทก์ หากมีการส่งสินค้ามาจริงสินค้าที่ส่งมาก็ไม่ใช่สินค้าที่จำเลยรับประกันภัยไว้ สินค้าของโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายในระหว่างขนส่ง แต่เกิดความเสียหายภายหลังจากที่โจทก์ได้รับสินค้านี้ไว้แล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดแม้สินค้าของโจทก์จะเสียหาย โจทก์ก็เรียกร้องจากจำเลยไม่ได้เพราะโจทก์ทำผิดเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยทางทะเล เป็นเหตุให้กรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองความเสียหายของสินค้าขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นในชั้นฎีกาตามฎีกาของโจทก์มีว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้เป็นการประกันภัยทางทะเลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 868 ซึ่งบัญญัติให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายทะเล แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีบทบัญญัติกฎหมายทะเลใช้บังคับ ต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยการประกันวินาศภัยซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงมาปรับคดีอายุความฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจึงต้องนำอายุความทั่วไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 มาปรับคดี ศาลฎีกาเห็นว่าบริษัทฟอร์เรสต์โพรดักส์ เอ บี จำกัด ได้ส่งสินค้าให้โจทก์ทางทะเล โดยโจทก์เอาประกันภัยสินค้าดังกล่าวไว้แก่จำเลยตามกรมธรรม์ประกันภัยสินค้าทางทะเลและคำแปลเอกสารหมาย จ.1การประกันภัยดังกล่าวเป็นสัญญาประกันภัยทะเลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 868 ซึ่งจะต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายทะเล แต่ปัจจุบันประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายทะเลเกี่ยวกับสัญญาประกันภัยทะเล ทั้งไม่มีจารีตประเพณีเกี่ยวกับสัญญาเช่นว่านั้น เรื่องอายุความฟ้องเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยในคดีนี้จึงต้องนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 20 หมวด 2 ว่าด้วยการประกันวินาศภัยอันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับคดีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสาม (เดิม)และโดยที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า “ในการเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดสองปีนับแต่วันวินาศภัย” คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าวินาศภัยเกิดขึ้นก่อนหรือในวันที่ 25 มกราคม 2529 เพราะโจทก์รับสินค้าเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2529 ก็ปรากฏความเสียหายของสินค้าแล้ว โจทก์ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายของสินค้าเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2531 พ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันวินาศภัย คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษายืน