คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการปกครองมรดกร่วมกันมา
ทายาทที่ปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาย่อมฟ้องร้องกันได้ ไม่ขาดอายุความตาม ม.1748 แม้จะได้ทำสัญญาจะแบ่งมรดกกันไว้ และได้มอบทรัพย์มฤดกให้ปกครองเมื่อพ้น 1 ปีนับแต่วันเจ้ามรดกตาย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกบิดามารดาจากจำเลยครึ่งหนึ่ง จำเลยให้การตัดฟ้องว่าคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองมรดกร่วมกันมา คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะ
จำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียวว่า ฟ้องขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเดียวว่า คดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาในเรื่องอายุความนี้ ได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาจะแบ่งมรดกกันไว้ โจทก์ไปรับราชการต่างจังหวัด จำเลยเป็นผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์และเก็บประโยชน์สำหรับเลี้ยงดูทายาทเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่า โจทก์จำเลยได้ปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาย่อมฟ้องร้องกันได้ ไม่ขาดอายุความตาม ป.พ.พ.ม.๑๗๔๘
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ได้มอบทรัพย์ให้จำเลยปกครองเมื่อเป็นเวลากว่า ๑ ปีที่นางแสงมารดาตาย โจทก์ย่อมหมดสิทธิในทรัพย์มรดก ความข้อนี้แม้จะฟังเป็นจริง ก็ไม่ทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะทางพิจารณาได้ความว่าบิดามารดาตายแล้วโจทก์จำเลยได้ตกลงกันให้จำเลยเป็นผู้เก็บรักษาผลประโยชน์ตลอดมา แม้มาทำสัญญากันขึ้นภายหลังก็ไม่ทำให้โจทก์หมดสิทธิไปได้ จึงพิพากษายืน

Share