แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำของจำเลยเป็นแต่เพียงความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยมิได้รับอนุญาตเท่านั้น ดังนั้นเทปของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินซึ่งได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนและจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ โดยทำเป็นธุรกิจและได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในรูปของค่าธรรมเนียมสมาชิกจากลูกค้า โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนกลางและไม่มีเหตุได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ พร้อมด้วยเทป 159 ม้วนซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้และมีไว้ใช้ในการกระทำผิดดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 34 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530มาตรา 4, 6, 34 จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 2,100 บาท โทษจำคุกเห็นสมควรรอไว้มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ของกลางไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้สั่งริบของกลางโดยรองอัยการสูงสุดรักษาราชการแทนอัยการสูงสุด รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาโดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นแต่เพียงความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมาย ซึ่งความผิดฐานนี้เกิดจากการที่จำเลยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ดังนั้นเทปของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์ซึ่งได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
พิพากษายืน