แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246(6) ศาลจะสั่งให้จดชื่อบริษัทกลับคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ต่อเมื่อพิจารณาได้ความเป็นที่พอใจว่าในขณะที่ขีดชื่อบริษัทออกจากทะเบียนนั้น บริษัทยังทำการค้าขายหรือยังประกอบการงานอยู่ หรือมิฉะนั้นเห็นว่าเป็นการยุติธรรมที่จะให้บริษัทได้กลับคืนขึ้นทะเบียนอีกเพราะฉะนั้นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวจึงต้องอ้างเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง และต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นตามข้อกล่าวอ้างนั้นด้วย บริษัท ท.เป็นลูกหนี้ผู้ร้องอยู่การที่บริษัทท. ถูกขีดชื่อเป็นบริษัทร้าง ผู้ร้องย่อมไม่อาจดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้ ดังนี้ถือว่าผู้ร้องได้รับความเสียหายซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลับจดชื่อบริษัท ท. ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลได้ เมื่ออุทธรณ์ อุทธรณ์ในเรื่องใด อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยชอบที่จะยกปัญหานั้นตั้งประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์จึงจะถือว่าเป็นข้อที่ไม่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กลับจดชื่อบริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัดให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1246(6)
ผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการบริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัดก่อนที่บริษัทถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนยื่นคำคัดค้านว่า ในขณะที่ขีดชื่อบริษัทจากทะเบียนนั้น บริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัดได้เลิกทำการค้าและมิได้ประกอบกิจการงานแต่ประการใด ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่ามีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครกลับจดชื่อบริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246(6) หรือไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246(6) ศาลจะสั่งให้จดชื่อบริษัทกลับคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ต่อเมื่อพิจารณาได้ความเป็นที่พอใจว่าในขณะที่ขีดชื่อบริษัทออกจากทะเบียนนั้น บริษัทยังทำการค้าขายหรือยังประกอบการงานอยู่ หรือมิฉะนั้นเห็นว่าเป็นการยุติธรรมที่จะให้บริษัทได้กลับคืนขึ้นทะเบียนอีก เพราะฉะนั้นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวจึงต้องอ้างเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งและต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นตามข้อกล่าวอ้างนั้นด้วย คือ (1) ความจริงขณะที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนบริษัทยังทำการค้าขายหรือประกอบการงานอยู่ หรือ (2) เพื่อความเป็นธรรมควรให้บริษัทกลับคืนขึ้นทะเบียนอีก ตามคำร้องขอของผู้ร้องได้กล่าวอ้างว่า ในขณะที่บริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด ถูกขีดชื่อเป็นบริษัทร้างนั้นบริษัทดังกล่าวเป็นลูกหนี้ของผู้ร้องอยู่จึงเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้ อันเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายเพราะไม่อาจดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้และผู้ร้องนำสืบว่า ผู้ร้องได้ออกหนังสือค้ำประกันบริษัทดังกล่าวต่อธนาคารทหารไทย จำกัด ที่ได้ทำสัญญาไว้กับกองทัพบก ต่อมาบริษัทดังกล่าวผิดสัญญาต่อกองทัพบกและบริษัทดังกล่าวไม่ยอมชำระหนี้ดังกล่าวไม่ยอมชำระหนี้ให้แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด ผู้ร้องในฐานะชำระหนี้ จำนวน 187,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น290,137.92 บาท ให้แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด แทนบริษัทดังกล่าวแล้วจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาจากบริษัทดังกล่าว แต่บริษัทดังกล่าวถูกขีดชื่อเป็นบริษัทร้างผู้ร้องจึงไม่สามารถดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้จึงได้รับความเสียหายฟังได้ว่า ผู้ร้องย่อมไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ร้องได้ชำระหนี้แทนบริษัทดังกล่าวไปแล้วไม่สามารถจะฟ้องร้องเอาคืนจากบริษัทดังกล่าวได้ เห็นว่า คำร้องขอของผู้ร้องได้กล่าวอ้างและนำสืบได้ว่าผู้ร้องได้รับความเสียหายซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องย่อมมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครกลับจดชื่อบริษัท เทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246(6) ที่ผู้คัดค้านแก้ฎีกาว่า สัญญาค้ำประกันมีผลสิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2525 ผู้ร้องย่อมยกขึ้นต่อสู้ได้ แต่ผู้ร้องก็หาได้ทำเช่นนั้นไม่ ผู้ร้องกลับชำระหนี้ตามอำเภอใจ ผู้ร้องจึงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 695นั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องขอโดยไม่วินิจฉัยปัญหาที่ว่า ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากบริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด ลูกหนี้หรือไม่ เมื่อผู้ร้องอุทธรณ์ผู้คัดค้านชอบที่จะยกปัญหาดังกล่าวตั้งประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์แต่ผู้คัดค้านก็มิได้แก้อุทธรณ์ในปัญหาเรื่องนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยส่วนที่ผู้คัดค้านแก้ฎีกาว่าประเด็นที่ว่าเมื่อศาลเห็นเป็นการยุติธรรมแก่เจ้าหนี้ในการที่จะให้บริษัทดังกล่าวได้กลับคืนขึ้นทะเบียนอีกครั้งหนึ่งนั้น เป็นประเด็นที่ผู้ร้องมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่ควรวินิจฉัยให้นั้น เห็นว่าตามคำร้องขอของผู้ร้องได้กล่าวอ้างแล้วว่า ในขณะที่บริษัทดังกล่าวถูกขีดชื่อเป็นบริษัทร้าง บริษัทดังกล่าวเป็นลูกหนี้ของผู้ร้องจึงเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้และได้รับความเสียหาย ย่อมมีความหมายว่าผู้ร้องไม่ได้รับความเป็นธรรมนั่นเอง จึงมิใช่เรื่องนอกประเด็นแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องขอของผู้ร้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครกลับจดชื่อบริษัทเทพอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246(6)