คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ก่อนมีการฟ้องคดีล้มละลายประมาณ 4 เดือน ลูกหนี้จ้างผู้คัดค้านให้รื้อห้องสำนักงานของบริษัทลูกหนี้เป็นเงิน 85,000 บาท ผู้คัดค้านได้รื้อห้องให้เสร็จแล้ว ต่อมาหลังจากมีการฟ้องคดีล้มละลายไม่ถึงเดือน ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ค่าจ้างให้แก่ผู้คัดค้านจำนวน45,000 บาท เป็นการชำระหนี้ตอบแทนในทันทีตามสัญญาจ้างปกติ อีกทั้งเป็นการชำระเพียงบางส่วน จำนวนเงินที่ชำระมีจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ที่มีอยู่ถึง 25 ล้านบาท กรณียังถือไม่ได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้เพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2532 โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ (จำเลย) เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2532และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2533
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2532 ลูกหนี้ว่าจ้างผู้คัดค้านรื้อห้องสำนักงาน ตกลงค่าจ้าง 85,000 บาทผู้คัดค้านรื้อห้องเสร็จ ลูกหนี้จ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2532 จำนวน 45,000 บาท ถือว่าการชำระหนี้ดังกล่าวเป็นการกระทำภายหลังจากมีการขอให้ล้มละลาย และลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จำนวน 25,000,000 บาท ทำให้ผู้คัดค้านได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น จึงขอให้เพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวโดยให้ผู้คัดค้านคืนเงิน 45,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันยื่นคำร้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง
ผู้คัดค้านไม่ยื่นคำคัดค้าน
วันนัดไต่สวน ผู้ร้องและผู้คัดค้านแถลงรับข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่จำต้องไต่สวน จึงสั่งงดไต่สวน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ผู้คัดค้านคืนเงิน 45,000 บาท ให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องและผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ลูกหนี้จ้างผู้คัดค้านรื้อห้องสำนักงานของบริษัทลูกหนี้เป็นเงิน 85,000 บาท เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์2532 อันเป็นเวลาก่อนฟ้องคดีนี้ประมาณ 4 เดือน และผู้คัดค้านได้กระทำการรื้อห้องจนเสร็จ โดยลูกหนี้ชำระค่าจ้างจำนวน 45,000 บาทให้แก่ผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2532 อันเป็นเวลาภายหลังฟ้องคดีนี้ไม่ถึงเดือน การกระทำของลูกหนี้เห็นได้ว่าเป็นกรณีชำระหนี้ตอบแทนในทันทีตามสัญญาจ้างตามปกติ การชำระค่าจ้างก็กระทำเพียงบางส่วน และนับว่าเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหนี้ที่โจทก์ฟ้องซึ่งมีจำนวนถึง 25,000,000 บาท กรณียังถือไม่ได้ว่าลูกหนี้กระทำการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นผู้ร้องจึงขอเพิกถอนการชำระหนี้ของลูกหนี้ดังกล่าวไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาผู้ร้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาผู้คัดค้านฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

Share